‘เอพี’รุกตลาดทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ในเมือง

21 ก.ย. 2559 | 08:51 น.
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” (Baan Klang Muang CLASSE) ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น  เพื่อรุกตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบไตรมาส 4/2559 ของเอพี นำเสนอความต่างด้วยการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์สุดล้ำภายใต้แนวคิด ‘Multiverse Layouts’ การออกแบบพื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้ชีวิตในแนวตั้งและแนวนอนไปพร้อมๆ กัน สร้างมิติใหม่ให้กับพื้นที่ใช้สอยและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้นได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคน 3 ช่วงวัยในครอบครัว  มูลค่าโครงการรวม 2,560 ล้านบาท

บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ พร้อมเปิดตัวเป็นที่แรกกับ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย - รามอินทรา” โดยในเฟสแรกพร้อมนำเสนอซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น จำนวน 2 โมเดล ได้แก่ MONTE และ ETHNA สมบูรณ์พร้อมด้วย 5 ห้องนอน  6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น พร้อมที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ใช้สอย 346-454 ตารางเมตร จำนวน 56 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท เตรียมเปิดขายช่วง pre-sale วันที่ 5-6 พฤศจิกายนนี้ ณ เซลส์ แกลเลอรีโครงการ

นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยว่า “เอพีประสบความสำเร็จในการริเริ่มบุกเบิกตลาดทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ โลเคชั่นใจกลางเมืองเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นเบอร์ 1 ของตลาดทั้งในแง่สัดส่วนยอดขายและจำนวนโครงการ จากความสำเร็จดังกล่าวการันตีได้ถึงความโดดเด่นด้านแนวคิดของ ‘การดีไซน์พื้นที่’ ที่สร้างความแตกต่างให้กับการอยู่อาศัย ซึ่งในการสร้างความแตกต่างเราไม่ได้พิจารณาเฉพาะการแข่งขันในตลาด แต่เราคำนึงถึงการ-ท้าทายตัวเราเอง นั่นคือการก้าวข้ามขีดจำกัดและศักยภาพของตัวเราเองด้วย การเปิดตัว ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย - รามอินทรา’ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการพัฒนาโครงการแนบราบของเอพี ด้วยแบรนด์ทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ ที่มีศักยภาพแข็งแกร่งเป็นที่น่าเชื่อถือของผู้บริโภคอย่าง ‘บ้านกลางเมือง’ จึงการันตีได้ถึงคุณภาพและแนวคิดฉีกกรอบภายใต้ปรัชญาการทำงาน ‘AP – The Differentiator’ หรือเอพีผู้สร้างความแตกต่างให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย”

“การที่เอพีบุกตลาดซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า (ระดับราคาขาย 20 ล้านบาทขึ้นไป) ในโซนเอกมัย - รามอินทรานับว่าเป็นทำเลที่มีจำนวนดีมานด์และมียอดขายดีมาอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจซับพลาย์กลุ่มสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวทั้งตลาด พบว่า 93% หรือประมาณ 24,332 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 15 ล้านบาท และอีก 6% หรือประมาณ 1,504 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวกลุ่มระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป และเมื่อศึกษาเข้าไปถึงทำเลที่ตั้งพบว่าจาก 6% นั้นมีเพียงแค่ 3 โครงการ หรือประมาณ 50 ยูนิตเท่านั้นที่ตั้งอยู่ในเมือง (รัศมี 10 กิโลเมตรจากรถไฟฟ้าจตุจักร) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางการตลาดที่จำนวนซับพลาย์เกิดใหม่ยังมีไม่มาก ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงกระจุกตัวอยู่ในเขตเมือง” นายภมรกล่าว