นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 กันยายน 2559 กรมการจัดหางานจะครบรอบ 23 ปีแห่งการก่อตั้ง ซึ่งใน 1 ปีที่ผ่านมา กรมการจัดหางานได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลด้านแรงงานในด้านต่าง ๆ คือ 1) การให้บริการจัดหางานในประเทศ โดยได้ขยายศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) มีผู้มาใช้บริการ จำนวน 1,408,523 คน ผู้สมัครงานมาใช้บริการจัดหางาน จำนวน 87,632 คน ได้รับการบรรจุงาน 60,146 คน เปิดให้บริการหางานผ่าน Mobile Application ผู้สมัครงานใช้บริการ 67,276 คน บรรจุงาน 14,907 คน โดยในส่วนของการให้บริการจัดหางานแก่คนหางานทั่วประเทศ มีผู้มาใช้บริการสมัครงาน จำนวนทั้งสิ้น 947,495คน ได้รับการบรรจุงาน จำนวน 340,769 คน ก่อให้เกิดรายได้ 47,986,842,000 บาทและยังได้จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุทุกจังหวัดทั่วประเทศพร้อมกับเปิดเว็บไซต์ขึ้นทะเบียนหางานผู้สูงอายุมีผู้สูงอายุใช้บริการจัดหางาน จำนวน 774 คน ได้รับการบรรจุงาน413 คน การส่งเสริมแรงงานนอกระบบ การพัฒนาข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน
2) การให้บริการจัดหางานในต่างประเทศ โดยพัฒนาระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศมีคนหางานเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 62,387 คน มีรายได้ส่งกลับประเทศผ่านระบบธนาคารจำนวน 87,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเดินทางโดยรัฐจัดส่ง จำนวน11,299 คน ช่วยให้แรงงานไทยมีรายได้ที่เหมาะสม ลดค่าใช้จ่ายของคนหางาน และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย 3) การตรวจคุ้มครองคนหางาน ได้จัดตั้งเขตปลอดการหลอกลวงคนหางานในทุกจังหวัด โดยมีสถิติผู้ร้องทุกข์ลดลงจากปี 2558 มากกว่า 50 % การตรวจสอบแรงงานต่างด้าวและสถานประกอบการตามคำสั่ง คสช.ที่ 100 และ 101/2557 โดยได้ตรวจสอบสถานประกอบการ จำนวน 5,626 แห่ง ตรวจแรงงานต่างด้าว จำนวน 98,785 คน ดำเนินคดีนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 481 ราย แรงงานต่างด้าว จำนวน 2,944 คน และโครงการหยุดนายแบบ นางแบบและเด็กต่างชาติผิดกฎหมายในประเทศไทยเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ การตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานเป็นมัคคุเทศก์4) การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวเช่น เปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ตามมติ ครม. 23 กุมภาพันธ์ 2559 มีแรงงานต่างด้าวเมียนมา ลาว กัมพูชา มาจดทะเบียน จำนวน 1,202,427คน แบ่งเป็นแรงงาน 1,177,550 คน ผู้ติดตาม 24,877 คน นายจ้าง 364,479 คน
การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) โดยเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเมียนมา ลาว กัมพูชา ในกิจการประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำ มีแรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียนในกิจการประมงทะเล จำนวน 49,992 คน นายจ้าง 14,772 คน กิจการแปรรูปสัตว์น้ำ144,480 คนนายจ้าง 14,881 คน จัดทำ Application6 ภาษา (ไทย – เมียนมา–ลาว–กัมพูชา–เวียดนาม–อังกฤษ) ในชื่อ DOE HELP MEเพื่อรับเรื่องร้องทุกข์จากแรงงานต่างด้าว5) เปิดบริการสายด่วน1694เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ประสงค์หางานทำ นายจ้าง/สถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าวให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็ว รวมทั้งรับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับการจ้างงาน โดยมีล่ามภาษาเมียนมา กัมพูชา และอังกฤษคอยบริการตอบข้อมูลข่าวสารด้วย ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลอกลวงและหาผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย มีผู้ใช้บริการจำนวน 80,877 ครั้ง
กระทรวงแรงงานได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้านแรงงานเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2560-2580) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ซึ่งมีกรอบการดำเนินงาน 4 ช่วง และได้กำหนดแผนการปฏิบัติงานระยะที่1(ปี2560) เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ช่วงที่ 1“ProductiveManpower” (ปี 2561-2565) โดยมีแนวทางการขับเคลื่อนสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนไว้ 8 ด้าน โดยในส่วนของการส่งเสริมการมีงานทำซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมการจัดหางานคือด้านที่ 3 มุ่งสู่สองทศวรรษ การเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ Thailand 4.0 และ News Start up เริ่มตั้งแต่การแนะแนวอาชีพ ทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ให้ข้อมูลข่าวสารแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลิตคนให้ทันต่อความต้องการของตลาด รวบรวมตำแหน่งงานและอาชีพพร้อมวางแผนจัดสรรคนหางานเป็นไปตามความต้องการของตลาดและด้านที่ 4 คือ มุ่งสู่มิติใหม่ของการส่งเสริมการมีงานทำ แก้ไขและป้องกันปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ส่งเสริมการบูรณาการให้เกิดการมีงานทำในพื้นที่พิเศษ สร้างโอกาสการหางานให้ทุกกลุ่มอายุ พัฒนาระบบประกันการว่างงานเป็นการประกันการจ้างงาน ยกระดับอาชีพแรงงานนอกระบบด้วยการส่งเสริมอาชีพ รายได้ โดยจัดทำข้อมูลทะเบียนความต้องการและอาชีพ / จัดทำข้อมูลทะเบียนนายจ้างที่ต้องการจ้างทำงาน Matching ส่งเสริมการประกอบอาชีพการรับงานไปทำที่บ้าน ทั้งนี้เพื่อไปสู่ “Full Employment for all ages 2021”กำลังแรงงานมีงานทำถ้วนหน้าในทุกช่วงวัยภายในปี 2564