จีน เป็นคู่แข่งทางการค้าจริง? หรือสหรัฐอเมริกาควรจับมือกับจีนเพื่อเป็นผู้นำการค้าร่วมกันแน่

เป็นเรื่องใหญ่ของหลายๆประเทศรวมถึงประเทศไทยเองก็เป็นที่พูดถึงในช่วงเดือนที่ผ่านมาในเรื่องของ กำแพงภาษี จากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ภายใต้การดำเนินงานของประธานาธิบดี Donald Trump เป็นชนวนความขัดแย้งอีกครั้ง ที่มาในรูปแบบของ “สงครามการค้า” โดยหนึ่งในเป้าใหญ่ของสหรัฐอเมริกานั้นเหมือนจะเล็งไปทาง “ประเทศจีน”

ที่สหรัฐอเมริกามองเป็นคู่แข่งทางการค้าที่ต้องสกัด! ซึ่งโยนภาษีตอบโต้กันไปมาสูงไปถึง 245% แต่ท่าทีของประเทศจีน ดูเหมือนจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรประกาศเพียงว่า จะมีการตั้งกำแพงตอบโต้เช่นกัน ปรากฎการณ์ครั้งนี้ถูกกล่าวว่า Trump นั้น กำลังพาโลกเข้าสู่ “Great Depression” อีกครั้ง

ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลังจากมีการดำเนินนโยบายตั้งกำแพงภาษีที่สหรัฐอเมริกาตั้งขึ้นกับในหลายๆประเทศ กำลังส่งผลให้สหรัฐอเมริกาเองเกิดการร่วงของตลาดทุนในสหรัฐและทั่วโลกผันผวนและตกลงอย่างหนัก เริ่มเกิดการประท้วงในหลายรัฐ เกิดความปั่นป่วนและถกเถียงกันอย่างหนักในประเทศ เพราะผลกระทบจะเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างหนักที่มาจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น การผลิตหดตัว การลดการจ้างงานที่จะตามมาในอนาคต

กลับกันประเทศจีนยังคงไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไหร่ เนื่องจากนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาเองยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและสงครามการค้าเป็นสงครามระยะยาว รวมทั้งประเทศจีนเองก็เรียกได้ว่าวางรากฐานของประเทศให้กำลังก้าวเป็น 1 ในประเทศมหาอำนาจจากการเป็นประเทศที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการปูทางจากรัฐบาลด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศษฐกิจครั้งใหญ่อีกครั้ง

โดยจีนมีการกำหนดทิศทางนโยบายชาติดันให้ GDP เติบโตขึ้นไปมากกว่า 5% จากที่ตั้งใจไว้ ด้วยการส่งเสริมการเติบโตของรายได้ของประชาชนและครอบครัวครอบคลุมทั้งในเมืองและชนบทรวมทั้งสนับสนุนการจ้างงาน ช่วยเพิ่มศักยภาพการบริโภคของภาคครัวเรือน, ส่งเสริมโครงการเงินอุดหนุนการซื้อสินค้า ด้วยการขยายโครงการ “Cash-for-Clunkers” กระตุ้นให้ประชาชนมีการซื้อรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่

รวมทั้งเพิ่มให้มาตรฐานสินค้าที่สูงขึ้นเพื่อผลักดันการกระจายสินค้าให้ได้มากขึ้น, กระตุ้นการท่องเที่ยวและภาคบริการ ด้วยการพัฒนาและปรับปรุงบริการ มีมาตรการดูแลเด็กและผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น รวมถึงขยายประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า เพื่อกระตุ้น การท่องเที่ยว และนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนในระยะยาวจากตลาดทุนในระยะยาวด้วยการรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้น

แม้ว่าในภาคของการลงทุนอื่นๆยังคงไม่ได้เติบโตเพิ่มขึ้น ตลาดทุนของประเทศจีนยังสามารถดึงดูดนักลงทุนและสร้างเสถียรภาพในตลาดทุนได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นแหล่งตลาดทุนใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม

นอกจากการนโยบายจากรัฐบาลที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจแล้วภาคอุตสาหกรรมของจีนเองก็มีหลายอุตสาหกรรมที่ก้าวขึ้นมาสู่ผู้นำและแข็งแกร่งขึ้นมาในเวทีของโลก

อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ ในระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศจีนเองมีการลงทุนการพัฒนาในอุตสากรรมของ Semiconductor ที่จะมาเปลี่ยนเกมส์การแข่งขันในตลาดของสินค่าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI ที่เริ่มมีการปล่อย Smartphone ที่มีการใช้ชิปที่มีประสิทธิภาพสูงภายใต้แบรนด์จีน รวมทั้งมีการเปิดตัว AI อย่าง DeepSeek ที่เป็น AI ตัวเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อยกว่า AI ในท้องตลาด ออกมาให้ทั่วโลกได้ประหลาดใจ

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,096 วันที่ 15 - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568