AGE โชว์แผนรุกปี 67 ลุย "โลจิสติกส์-ไฟฟ้า-ลิสซิ่ง" เพิ่มรายได้ขายถ่านหิน

18 พ.ย. 2566 | 00:27 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2566 | 00:41 น.

ปี 2566 หลายธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังข้ามผ่านวิกฤตโควิด เช่นเดียวกับบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด ( มหาชน ) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูบินัส (ถ่านหินสะอาด) ให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร

ตลอดปี 2566 บริษัทได้เดินหน้าการลงทุนต่อเนื่อง ส่วนการขยับตัวนับจากนี้และในปี 2567 จะเป็นอย่างไรนั้น นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ AGE เจเนอเรชั่น ที่ 2 ของ AGE ได้เปิดมุมมองถึงทิศทางการเติบโตของธุรกิจธุรกิจหลักคือถ่านหิน และทิศทางธุรกิจอื่นๆ ในปี 2567 ผ่าน “ฐานเศรษฐกิจ” ไว้อย่างน่าสนใจ

  • สถานะธุรกิจและทิศทางปี 67

นางสาวปณิตา กล่าวว่า AGE มีธุรกิจ 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน , ธุรกิจโลจิสติกส์ ,ธุรกิจพลังงานยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าคือ เชื้อเพลิง RDF (ผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะ) และธุรกิจ Diversified คือธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ รถบรรทุก ปัจจุบัน รายได้จากธุรกิจถ่านหิน ยังคงมีสัดส่วนอยู่ที่ 94.9% ของรายได้รวม และโลจิสติกส์ 4.8% โดยธุรกิจถ่านหิน AGE เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหินรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในปีหน้าตั้งเป้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการในส่วนโลจิสติกส์ เพื่อพัฒนาการให้บริการลูกค้า

ปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ AGE

สำหรับแผนขยายธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ 1. ธุรกิจโลจิสติกส์ ในปี 2566 มีการลงทุนรถบรรทุกเพิ่ม ทำให้ปัจจุบันมีรถบรรทุก 104 พ่วง และมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการลูกค้าภายนอกเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแผนที่จะลงทุนระบบไอที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการรถบรรทุก และการให้บริการลูกค้า คาดจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า

2.ธุรกิจ sustainable energy ช่วงกลางปีที่ผ่านมา AGE ได้เข้าซื้อหุ้น บมจ. QTC จำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่า 320 ล้านบาท ในสัดส่วน 23.5% โดยบริษัทมองว่า QTC อยู่ในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ธุรกิจขายแผงโซลาร์, อุปกรณ์อีวี และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม เป็นการ diversify การลงทุนจากธุรกิจหลักซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมธุรกิจพลังงานความร้อน สู่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งบริษัทย่อย Green RDF เพื่อผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะ ตั้งเป้าการผลิตเชื้อเพลิง RDF หรือเชื้อเพลิงขยะจำนวน 3,000 ตันต่อเดือน คาดจะเริ่มดำเนินการผลิตใน ปี 2567

3.ธุรกิจ Diversified ที่ AGE ได้จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ เอจีอี ลิสซิ่ง เพื่อให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและขายฝากรถบรรทุก โดยตั้งเป้ายอดการปล่อยสินเชื่อในปี2566 จำนวน 250 ล้านบาท ผ่านโครงการเถ้าแก่น้อย ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสานฝันพนักงานขับรถของบริษัทฯ ให้ได้เป็นเจ้าของรถ และการปล่อยสินเชื่อให้กับพันธมิตรของบริษัท ปัจจุบันมีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกผ่านโครงการเถ้าแก่น้อย จำนวน 19 ราย ในอนาคตจะขยายการให้บริการไปยังบุคคลภายนอก ทั้งในส่วนของการเช่าซื้อและจำนำ ผ่าน Dealer และ Direct sales

AGE โชว์แผนรุกปี 67 ลุย "โลจิสติกส์-ไฟฟ้า-ลิสซิ่ง" เพิ่มรายได้ขายถ่านหิน

  • มั่นใจยอดขายถ่านหินพุ่ง

สำหรับปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดขายถ่านหินปี 2567 ที่ 4.5 ล้านตัน จากที่เป้าปริมาณการขายถ่านหินปี 2566 อยู่ที่ 4 ล้านตันโดยภาพรวมรายได้ยังมาจากธุรกิจถ่านหินเป็นหลัก สัดส่วน 90-95% จากรายได้รวม

“ราคาถ่านหินโลกได้รับปัจจัยกดดันจากการชะลอตัวของความต้องการนำเข้าถ่านหินในจีน และอินเดีย จากการผลิตถ่านหินในประเทศที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในจีน อย่างไรก็ตามคาดว่าสถาน การณ์ภาคการก่อสร้างในจีนจะค่อยๆ ฟื้นตัวในปีหน้า และอากาศที่หนาวเย็นจะทำให้ความต้องการนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นในฤดูหนาว”

สอดคล้องกับในปีหน้า สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์การใช้ถ่านหินของภูมิภาคเอเชียจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ชดเชยกับการใช้ถ่านหินที่ลดลงของยุโรปและอเมริกา คาดการณ์ว่าความต้องการใช้ถ่านหินของโลกในปีหน้าจะมีปริมาณ 8.38 จิกะตัน (Gt) ใกล้เคียงกับของปีนี้ (2023) และปี 2022 ซึ่งถือเป็นปริมาณที่สูงที่สุด และมีการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าในปี 2024 จะลดลง (-1%) แต่จะแทนที่ด้วยความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

สำหรับลูกค้าของ AGE ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 260-300 ราย โดยธุรกิจถ่านหิน กลุ่มลูกค้าหลักจากในประเทศ เช่น โรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ สิ่งทอ อาหาร และมีนโยบายเพิ่มสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ในโรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เป็นต้น

ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ให้บริการขนส่งครบวงจร แก่สินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม สามารถขนส่งสินค้าได้ครอบคลุมสินค้าเทกอง ปูนซีเมนต์ แร่ยิปซั่ม สินค้าทางการเกษตร เชื้อเพลิงถ่านหิน และเชื้อเพลิงชีวมวล เป็นต้น

  • ลุยลดโลกร้อน ลดค่าไฟ

นางสาวปณิตา กล่าวถึง แผนการปรับตัวเพื่อลดโลกร้อนของ AGE ว่า มีแผนที่จะทำเรื่อง carbon footprint องค์กร คาดจะเสร็จช่วงปีหน้า ปัจจุบันกระบวนการดำเนินการของบริษัท มีการใช้ไฟฟ้าในสำนักงาน และคลังสินค้า และมีการใช้นํ้ามันในรถขนส่ง และเครื่องมือหนักในคลังสินค้า และท่าเรือ โดยมีการติดตั้ง Solar Roof บนหลังคาโกดังคัดแยกสินค้า ที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ขนาด 554 kWh สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 2 ได้ 380 tonCO2eq/ปี ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึงปีละ 2.6 ล้านบาท และมีการเริ่มทดลองใช้เครื่องมือหนักซึ่งเป็น EV และ รถบรรทุก EV

“ธุรกิจของ AGE เป็นธุรกิจพลังงาน ความต้องการปรับตัวขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจ ความเสี่ยงต่อผลการดำเนินงานคือการพึ่งพาถ่านหินซึ่งเป็นสินค้าหลัก ปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนในธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจถ่านหิน เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์สินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร, ธุรกิจเชื้อเพลิง RDF และมีการเข้าซื้อหุ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ทั้งนี้ประเมินว่าปี 2567 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดียังต้องจับตาผลกระทบจากสงครามในตะวันออกกลางควบคู่ไปด้วย” นางสาวปณิตา กล่าว