ทำความรู้จัก “อุโมงค์เก็บเมล็ดพันธุ์พืช” แห่งขั้วโลกเหนือ

21 ก.พ. 2565 | 21:00 น.

อุโมงค์ Svalbard Global Seed Vault บนเกาะสปิตสเบอร์เกน ซึ่งอยู่ระหว่างนอร์เวย์กับขั้วโลกเหนือ ที่นี่คือ “ธนาคารเมล็ดพันธุ์” ที่จะถูกเปิดออกมาเพียงปีละไม่กี่ครั้ง เพื่อปกป้องไม่ให้เมล็ดพันธุ์ที่ถูกเก็บอยู่ในนั้น ต้องสัมผัสกับปัจจัยจากภายนอกมากเกินไป

ธนาคารเมล็ดพันธุ์ (Seed Bank ) เป็นวิธีการหนึ่งที่มนุษย์นำมาใช้สำหรับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชแบบนอกถิ่นที่อยู่อาศัย (Ex situ Conservation) โดยการสร้างสภาพแวดล้อมในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ให้คงความมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุด นั่นหมายความว่า ธนาคารเมล็ดพันธุ์จะทำหน้าที่เป็นแหล่งสะสมพันธุกรรมที่ดีของพืชและยังมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ด้วย

อุโมงค์เก็บเมล็ดพันธุ์พืชแห่งขั้วโลกเหนือ

นอกจากนี้ ธนาคารเมล็ดพันธุ์ ยังช่วยรักษาพันธุ์พืชไม่ให้ถูกทำร้ายจากภัยคุกคามต่าง ๆ ทั้งจากภัยธรรมชาติเช่น น้ำท่วม และการเกิดไฟไหม้ป่า ไปจนถึงภัยที่เกิดจากมนุษย์ เช่น ภาวะสงคราม และการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ฯลฯ เมื่อทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเริ่มมีการถูกทำลายมากขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน ระดับประเทศ และระดับโลก ก็ย่อมส่งผลทำให้ทรัพยากรทางด้านพืชพรรณ ได้รับผลกระทบไปด้วย การนำเมล็ดพันธุ์พืชมาเก็บไว้ในธนาคารเมล็ดพันธุ์ จึงเป็นการรับประกันสำหรับอนาคตภายภาคหน้าว่า มนุษย์จะยังมีเมล็ดพืชไว้ใช้สำหรับการกระจายพันธุ์ต่อไป ไม่เกิดภาวะขาดแคลน

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อุโมงค์แห่งหนึ่งที่สร้างไว้ในภูเขาที่ขั้วโลกเหนือเพื่อใช้เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ ให้ปลอดภัยจากสงคราม โรคระบาดและภัยพิบัติต่าง ๆ จะได้รับเมล็ดพันธุ์หายากเข้าเก็บรักษาเพิ่มขึ้นอีกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเมล็ดพันธุ์จากองค์กรแรกที่เคยใช้บริการถอนเมล็ดพันธุ์จากอุโมงค์ธนาคารเมล็ดพันธุ์แห่งนี้ออกไปใช้

อุโมงค์เก็บเมล็ดพันธุ์พืช Svalbard

อุโมงค์ Svalbard Global Seed Vault ตั้งอยู่บนเกาะสปิตสเบอร์เกน ซึ่งอยู่ระหว่าง นอร์เวย์ กับ ขั้วโลกเหนือ ที่นี่คือ “ธนาคารเมล็ดพันธุ์” จะถูกเปิดออกมาเพียงปีละไม่กี่ครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องไม่ให้เมล็ดพันธุ์ที่ถูกเก็บอยู่ในนั้น ต้องสัมผัสกับปัจจัยจากภายนอกมากเกินไป

อุโมงค์เก็บเมล็ดพันธุ์พืช Svalbard

เมื่อวันจันทร์ที่ 14 ก.พ. ธนาคารเก็บรักษาพันธุกรรม หรือ gene bank ในประเทศซูดาน ยูกันดา นิวซีแลนด์ เยอรมนี และเลบานอน ได้นำฝากเมล็ดพันธุ์พืชกับอุโมงค์แห่งนี้เพิ่มเติมไว้ในบัญชีของตนเอง ซึ่งรวมถึงเมล็ดข้าวฟ่าง และข้าวสาลี

 

ขณะที่ องค์กร International Center for Agricultural Research in Dry Areas (ICARDA) ในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ซึ่งเคยถอนเมล็ดพันธุ์ออกไปใช้แล้ว 3 ครั้งในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเพื่อนำไปชดเชยส่วนที่เสียหายจากสงครามในซีเรีย ได้นำเมล็ดพันธุ์ตัวอย่าง 8,000 เมล็ด ฝากกลับเข้าไปเก็บรักษาไว้อีกครั้ง

อุโมงค์เก็บเมล็ดพันธุ์พืช Svalbard

ปัจจุบัน มีเมล็ดพันธุ์ตัวอย่างของพืชพรรณนานาชนิด ถูกเก็บรักษาไว้ที่อุโมงค์ยักษ์แห่งนี้เกือบ 6,000 สายพันธุ์ เป็นจำนวนมากกว่า 1.1 ล้านเมล็ด เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ต่อไปในภายภาคหน้าไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆขึ้นที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพื้นที่เพาะปลูก มนุษย์ในประเทศต่าง ๆก็จะยังคงมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่พร้อมจะนำไปเพาะและกระจายพันธุ์เพื่อไม่ให้โลกต้องขาดแคลนอาหาร

 

ข่าวระบุว่า แม้ในช่วงเวลานี้ โลกของเราได้มีการเพาะปลูกพืชแล้วมากกว่า 6,000 ชนิด แต่ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เชื่อว่า ประชากรโลกส่วนใหญ่ได้รับสารอาหารราว 40% จากพืชหลักเพียง 3 ชนิดเท่านั้น คือ ข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพด ซึ่งทำให้ปริมาณอาหารสำรองของโลกมีความเสี่ยงที่จะประสบกับภาวะขาดแคลนขึ้นได้ หากเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศครั้งใหญ่จนทำให้ไม่สามารถปลูกพืชเหล่านี้ได้