new-energy

ซีอีโอ EA เปิดโรงงานแบตเตอรี่ ผลิตรถ EV ตอกย้ำธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร

สมโภชน์ อาหุนัย ซีอีโอ EA เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน พร้อมโชว์โรงประกอบรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ตอกย้ำธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร เดินหน้าสู่เป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตเป็น 50 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี วอนรัฐสนับสนุนสินค้า Made in Thailand

 

คณะผู้บริหารเนชั่นเดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมี บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนแห่งแรกในอาเซียน บนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร หรือกว่า 91 ไร่ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม บลูเทคซิตี้ เนื้อที่รวม 2,500 ไร่ 

 

สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA (ขวา)

 

บริษัท อมิตาฯ ถือเป็นธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร โดยกำลังเตรียมเปิดโรงงานอีก 11 โรง เพื่อรองรับกำลังผลิตแบตฯ 50 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันมีโรงงานประกอบรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทุกประเภท ทั้งรถหัวลาก, รถเมล์, รถทัวร์, รถบรรทุกขนาดเล็ก และรถกระบะ
 

 

สำหรับ EA เป็นบริษัทที่ลงทุนในอมิตาไต้หวัน 71.2% แล้วมาขยายกิจการในไทย ในอีก 3 เดือนจะเพิ่มกำลังการผลิตแบตฯ เป็น 4 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี จากนั้นจะขยายเป็น 8 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี 

 

ฉัตรพล ศรีประทุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด


สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  EA กล่าวว่า "เราไม่ได้ผลิตอะไรที่เหมือนชาวบ้าน ตอนที่เราเริ่มคิดเรื่องพวกนี้ เราพยายามคิดว่าพอธุรกิจเริ่มบูม เริ่มมีการแข่งขัน เราจะสู้กับต่างชาติได้ยังไง เราเลยเริ่มคิดถึงเรื่องอินโนเวชัน จริงๆ สิ่งที่เราทำมันเป็นเรื่องอินโนเวชันและคอนเซ็ปต์ต่างๆ ที่เราทำ คีย์เวิร์ดคือพอเรามีอินโนเวชันเราก็ไปทำเรื่องสิทธิบัตรเป็นหลัก 

 

"พอเราได้คอนเซ็ปต์นี้เชื่อว่าถ้าเราทำของใหม่ๆ และทำอินโนเวชัน แล้วมีโพรเทคชันเรื่องของสิทธิบัตรจะทำให้เวลาทำธุรกิจไปข้างหน้า การแข่งขันที่คนจะเข้ามาแข่งจะยากขึ้น และเราจับอุตสาหกรรมที่ไม่เหมือนกับตลาดใหญ่ๆ เพราะถ้าเราไปสู้กับยักษ์ใหญ่ตรงๆ เราสู้ไม่ได้ เราไปจับตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่เราคิดว่ายังพอสู้ได้

 

ผู้บริหารสื่อเครือเนชั่นเยี่ยมชมโรงงานบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้บริหารสื่อเครือเนชั่นเยี่ยมชมโรงงาน บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

"นี่คือภาพใหญ่ที่เราทำ เหมือนเป็นยุทธศาสตร์ที่เราเดินมา แต่ที่สำคัญคือตั้งแต่เราเดินมาจนถึงวันนี้ที่เราบอกว่าเราดูรัฐบาลทำโน่นทำนี่ ก็แอบน้อยใจนิดๆ ว่าเราไม่เคยได้ความช่วยเหลือ ผมอยากให้สนับสนุนเรื่อง Made in Thailand มากขึ้น เพราะช่วยให้เงินตราอยู่ในประเทศและจะทำให้เศรษฐกิจไทยโต 
 

"ไม่งั้นจะเหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญเหมือนที่เราเห็น เวลาคนมาลงทุนเราจะดูแต่ตัวเลขว่ามาลงทุนกี่แสนล้านเท่านั้น แต่จริงๆ เงินเขาเอากลับไปหมด อย่างในอดีตผลิตรถยนต์ในไทย คนไทยได้ค่าแรงราว 5,000 บาทต่อคันเท่านั้น ผมคิดว่าถ้าอุตสาหกรรมปลายน้ำผลิตในไทยเยอะๆ คนไทยเป็นเจ้าของจะทำให้รายได้ เงินต่างๆ อยู่ในประเทศไทยเยอะขึ้น เราจึงพยายามทำตรงนี้" 

 

ก่อนที่คณะเครือเนชั่นจะเดินเยี่ยมชมขั้นตอนการผลิต ฉัตรพล ศรีประทุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และผู้อำนวยการโครงการกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน EA กล่าวว่า เรื่องพลังงานในประเทศต้องสร้างสมดุลใน 3 เรื่อง คือ 1. พลังงานสะอาด เพราะทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

 

ซีอีโอ EA เปิดโรงงานแบตเตอรี่ ผลิตรถ EV ตอกย้ำธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร

2. ราคา ด้วยการใช้พลังงานสะอาดทั้งหมดในขั้นตอนการผลิตในบางช่วงบางเวลาราคาอาจจะแพง และ 3. ความมั่นคงของประเทศ ในโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนที่การใช้ไฟฟ้าจะพีค หากใช้เฉพาะโซลาร์กับลมจะทำอย่างไร 

 

ฉัตรพล ขยายความว่า ทั้ง 3 สิ่งนี้ต้องสมดุลกัน เช่น การใช้แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานในบางช่วงเวลา แต่ไม่ได้บอกว่าต้องใช้แบตฯ 100% เพราะบางช่วงเวลา 17.00 - 22.00 น. เป็นช่วงพีคของการใช้ไฟพุ่ง ค่าไฟอาจแพงขึ้นก็อาจใช้ไฟจากโซลาร์ที่สามารถผลิตได้ หรือบางประเทศอาจใช้พลังงานไฮโดรเจนจากเพื่อนบ้านซึ่งถือเป็นพลังงานสะอาดแต่ก็ต้องสร้างสมดุลเรื่องความมั่นคงพลังงานของประเทศ

 

กลุ่ม EA มองสถานการณ์ตั้งแต่ 7-8 ปีที่ผ่านมาแล้วว่า นอกจากเรื่องพลังงานทดแทน เชื่อว่ายานยนต์ไฟฟ้าต้องมาแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรให้ธุรกิจเกิดขึ้นในไทยได้เร็วที่สุด เพราะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกค่อนข้างสำคัญ แต่ไทยก็ไม่ได้มีประชากรใหญ่มากเหมือนจีน ดังนั้นจะทำอย่างไรที่จะนำจุดแข็งมาเดินหน้าธุรกิจอย่างเต็มกำลัง


"ตอนนี้ทำแบตฯ NMC แต่ปีหน้าขยาย LFP เพิ่ม เรามี Ultra fast  charge ภายใน 15 นาที และกำลังศึกษาการนำแบตฯ เก่ามารีไซเคิลเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด เรามีโรงประกอบรถ EV แบบครบวงจร และมีบริษัทไทย สมายให้บริการเดินรถ นี่คือความตั้งใจและในอนาคตก็จะขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลาที่ใช้ไฟเยอะ คนต้องการสำรองไฟฟ้า เทรนด์ energy storage ก็จะเกิดขึ้น" ฉัตรพล กล่าว