ผู้ว่าฯ เชียงใหม่โชว์ตัวเลขแก้ไฟป่า พื้นที่เผาลดลง 74% ฝุ่น PM2.5 ดีขึ้น
GISTDA สรุปตัวเลขพื้นที่เผาไหม้ป่าในเชียงใหม่โดยรวมลดลง 74% โดยป่าอนุรักษ์ยังเป็นแชมป์มีพื้นที่เผาและจุดความร้อนมากที่สุด ภาพรวมฝุ่น PM2.5 ลดลงจากปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกันรวม 30 วัน หรือดีขึ้น 28%
ศูนย์ข้อมูลไฟป่าฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ นำข้อมูลสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควันในเชียงใหม่ ของ GISTDA มารายงานผ่านเฟซบุ๊กเพจ ว่า จำนวนพื้นที่เผาไหม้ (Burn scar) ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงวันที่ 1 มกราคม-30 เมษายน 2567 จำนวน 512,769 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 68% ป่าสงวนแห่งชาติ 26% ส.ป.ก. 5% พื้นที่เกษตร 1% และที่เหลือพื้นที่อื่นๆ โดยในเดือนมกราคมพื้นที่เผาป่า 71 ไร่ กุมภาพันธ์ 68,685 ไร่ มีนาคม 370,154 ไร่ เมษายน 73,859 ไร่ โดยเดือนเมษายน 2566 และเดือนเดียวกันของปี 2567 พื้นที่เผาไหม้หรือพื้นที่ไฟป่าลดลง 74%
แอปพลิเคชัน FireD ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-เมษายน มีคำขอจัดการไฟ (เผา) 14,417 คำขอ พื้นที่ 390,261.3 ไร่ อนุมัติ 12,635 คำขอ พื้นที่ 350,803.4 ไร่ ผลการดำเนินงาน 5,778 คำขอ จำนวนรวม 193,092.9 ไร่ มีจุดบริหารจัดการเชื้อเพลิง 671 จุด ล่าสุดวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 มี 2 คำขอ พื้นที่ 13 ไร่และอนุมัติทั้งหมด
สำหรับจุดความร้อนเชียงใหม่ ปี 2566 และปี 2567 (วันที่ 1 มกราคม-เดือนเมษายน) พบว่าจุดความร้อนสะสมลดลงจากปี 2566 ในวันเวลาเดียวกัน 5,097 จุดหรือลดลง 41% โดยเทียบวันที่ 1 เมษายน- 31 พฤษภาคม 2566 จำนวน 13,094 จุด 1 เมษายน- 30 เมษายน 2566 จำนวน 12,526 จุด และวันที่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2567 จำนวน 7,429 จุด พื้นที่เกษตร 1% ชุมชนและอื่นๆ 2%
นอกจากนี้ จุดความร้อนสะสมจากดาวเทียม Suomi NPP (VIIRS) วันที่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2567 แบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ ป่าอนุรักษ์ 53% ป่าสงวนแห่งชาติ 41% ส.ป.ก. 3%
ไฟป่าหรือการเผาที่เกิดขึ้นสร้างฝุ่น PM2.5 วันที่ 1 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2566 รวม 114 วัน วันที่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2566 รวม 109 วัน และวันที่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2567 รวม 79 วัน ดังนั้นฝุ่น PM2.5 ลดลงจากปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกันรวม 30 วัน หรือดีขึ้น 28%
ทั้งนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ได้นำข้อมูลดังกล่าวมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง โดยระบุว่า "บ่งชี้ถึงประสิทธิผลของทีมบูรณาการเชียงใหม่ ภายใต้นโยบาย 'รู้ให้เร็ว ดับให้ไว' ผมต้องขอขอบคุณ จนท.ดับไฟป่าทุกท่าน ถึงแม้ปีนี้ฝนจะน้อยกว่าค่าปกติ และมาล่าช้า รวมถึงแล้งรุนแรงจากภาวะโลกเดือด ปรากฏการณ์เอลนีโญ แต่ทีมเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทุกท่าน ก็ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง