environment

ชาวบ้านระยองฟ้องบริษัทชนะคดี 20 ล้าน โรงงานสารเคมีหนี จนเกิดไฟไหม้ใหญ่

โรงงานบริษัท บริษัท วิน โพรเสส ที่เกิดเพลิงไหม้ เมื่อ 22 เมษายนที่ผ่านมา ตั้งอยู่บ้านหนองพะวา หมู่ที่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้เลิกกิจการไปหลังศาลระยองพิพากษาให้ชาวบ้านที่ยื่นฟ้องชนะคดีตั้งแต่ปี 2565 แต่ไม่มีใครจัดการสารเคมีที่ถูกทิ้งไว้

 

โรงงานสารเคมี บริษัท บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ก่อตั้งในปี 2554 และถูกชาวบ้าน บ้านหนองพะวา หมู่ที่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง คัดค้านมาอย่างต่อเนื่องเพราะเกรงจะได้รับอันตราย กระทั่งได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลระยองจนชนะคดีและได้ค่าชดเชยกว่า 20 ล้านบาท แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปจัดการสารเคมีอันตรายเหล่านั้นได้อย่างที่ควรจะเป็นหลังบริษัทปิดโรงงานทิ้งและเลิกกิจการไป กระทั่งมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ขึ้น และปล่อยมลพิษฟุ้งไปทั่ว 

 

ย้อนไปดูที่มา ชาวบ้านหนองพะวาได้ร่วมกันคัดค้านโรงงานสารเคมีแห่งนี้มาต่อเนื่อง จากนั้นได้ยื่นฟ้องต่อศาลระยอง เมื่อปี 2564 และศาลมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ให้บริษัท วิน โพรเสสฯ กรรมการ และอดีตกรรมการ ชดเชยค่าเสียหายและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมตามฟ้อง โดยสั่งให้ชดเชยวงเงินรวม 20,823,718 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี 

 

เหตุไฟไหม้โรงงานสารเคมี บริษัท วิน โพรเสส จำกัด หมู่ที่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เครดิตภาพ: ZOOM Rayong ซูมระยอง

นอกจากนี้ ให้บริษัทและจำเลยทั้งหมดควบคุมมิให้เกิดการรั่วไหลของสารเคมี พร้อมทั้งเข้าฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่หนองพะวา แหล่งน้ำสาธารณะให้มีสภาพเป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งจำเลยทั้ง 3 มีความผิดฐานละเมิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 
 

 

ในการฟ้องร้องฟ้องครั้งนี้ ชาวบ้านให้เหตุผลว่า บริษัท วิน โพรเสส ลักลอบฝังกากอันตราย ลักลอบฝังกลบของเสียอุตสาหกรรมทั้งของแข็ง และของเหลวลงใต้ดินจนเกิดการรั่วไหล ลุกลามของสารเคมีอันตรายออกมายังพื้นที่รอบๆ โรงงาน สร้างความเสียหายทั้งต่อสิ่งแวดล้อม และต่อเศรษฐกิจของชาวบ้านในพื้นที่เกือบ 10 ปี ตั้งแต่โรงงานเริ่มนำของเสียอุตสาหกรรมเข้ามาเก็บในพื้นที่ เมื่อปี 2556

 

สารเคมีที่ถูกเก็บไว้ในโรงงานสารเคมี บริษัท วิน โพรเสส จำกัด หมู่ที่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เครดิตภาพ: มูลนิธิบูรณะนิเวศ

สารเคมีที่ถูกเก็บไว้ในโรงงานสารเคมี บริษัท วิน โพรเสส จำกัด หมู่ที่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เครดิตภาพ: มูลนิธิบูรณะนิเวศ

 

ศาลมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ให้บริษัท วิน โพรเสสฯ กรรมการ และอดีตกรรมการ ชดเชยค่าเสียหายและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมตามฟ้อง โดยสั่งให้ชดเชยวงเงินรวม 20,823,718 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี นอกจากนี้ ให้บริษัทและจำเลยทั้งหมดควบคุมมิให้เกิดการรั่วไหลของสารเคมี พร้อมทั้งเข้าฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่หนองพะวา แหล่งน้ำสาธารณะให้มีสภาพเป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ


อย่างไรก็ตาม กรมควมคุมมลพิษ และทนายความได้ประเมินค่าเสียหายในเวลานั้นอยู่ที่ประมาณ 47 ล้านบาท แต่ศาลได้ลดจำนวนค่าความเสียหายลงตามคำพิพากษาดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า มูลค่าความเสียหายของพืชเศรษฐกิจของชาวบ้านบางส่วนตามฟ้องมีมูลค่าลดลงตามอายุที่เหมาะสม ไม่ใช่ตามฟ้อง

 

อีกทั้งค่าเสียหายต่อสุขภาพไม่มีหลักฐานประจักษ์ชัดว่าชาวบ้านแต่ละคนได้รับความเสียหายหรือผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง เป็นเพียงการประมาณการ ศาลจึงกำหนดให้แค่รายละ 1 หมื่นบาท จากที่เรียกไปรายละประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งโดยรวมชาวบ้านค่อนข้างพอใจผลการตัดสิน 

 

แต่บริษัทไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โดยได้ทิ้งพื้นที่และซากโรงงานที่เต็มไปด้วยกองกากสารเคมีอันตรายสารพัดชนิดทั้งของเหลว ของหนืด ของแข็ง เถ้า ฯลฯ ในขณะที่ตัวที่ดินและซากโรงงานที่ตกเป็นทรัพย์สินของธนาคารซึ่งธนาคารก็ทำอะไรไม่ได้ แต่กองกากสารเคมีอันตรายทั้งหมดกลายเป็นมรดกที่คนพื้นที่ต้องแบกรับความเสี่ยงมาปีเศษ 

 

ล่าสุด ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้สั่งให้กองตรวจมลพิษประสานเจ้าหน้าที่ อบต.บางบุตร ให้พิจารณาอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งให้ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 (ชลบุรี) ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศในชุมชนโดยรอบโรงงาน โดยเฉพาะพื้นที่ด้านท้ายลม และพื้นที่อ่อนไหว เช่น ศูนย์เด็กเล็กและชุมชนหนาแน่น และให้หน่วยตรวจสอบเหตุฉุกเฉินสารเคมีจากส่วนกลาง คพ. เข้าร่วมสนับสนุนการตรวจสอบและให้ข้อเสนอแนะทางวิชาการร่วมด้วยแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม มูลนิธิบูรณะนิเวศ รายงานผ่านเพจมูลนิธิฯ ว่าช่วงใกล้เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ยังไม่ควบคุมเพลิงได้ และการลุกไหม้ยังลุกลามต่อเนื่องกินวงกว้างทั่วบริเวณโรงงานแล้ว

 

เบื้องต้นทราบว่าโรงงานแห่งนี้ได้จัดเก็บสารเคมีอันตรายเป็นจำนวนมาก ทั้งกากของแข็ง สารเคมีเสื่อมสภาพ น้ำมันดำ และโซลเว้นท์ ในขณะที่เพลิงได้ลุกลามไปยังอาคารเก็บวัสดุในพื้นที่ข้างเคียงและมีการระเบิดของถังสารเคมีเป็นระยะๆ ซึ่งน่าจะเป็นถังน้ำมันดำและโซลเว้นท์ที่โดนความร้อนและมีการขยายตัว