“พายุยางิ” ถล่มเวียดนาม เสียชีวิต-สูญหายพุ่ง โครงสร้างพื้นฐานพังยับ

วันที่ 9 ก.ย. 67 ศูนย์ปฏิบัติการห้อง 62 อินโดแปซิฟิก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานความเสียหายจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ ที่พัดถล่มประเทศเวียดนาม

โดยพายุมีความเร็วลมสูงสุดถึง 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลกระทบรุนแรงต่อ 3 เมืองใหญ่ของประเทศ แม้ปัจจุบันพายุจะลดความรุนแรงลงและกำลังจะสลายตัว แต่ได้ทิ้งความเสียหายไว้อย่างมหาศาล

 

ความเสียหายที่เกิดขึ้น

• บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 27,500 หลัง และได้รับผลกระทบอีก 38,000 หลัง
• อาคารสูง 65 อาคารได้รับความเสียหาย
• ไฟฟ้าดับใน 3 เมือง ส่งผลกระทบต่อ 830,000 ครัวเรือน
• สนามบิน 2 แห่งและโรงไฟฟ้า 1 แห่งได้รับความเสียหาย
• เรือโดยสาร 3 ลำและเรือประมง 300 ลำจมลง
• สะพาน 1 แห่งถล่ม และเกิดดินถล่ม 3 แห่ง

ผู้ได้รับผลกระทบ

• มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 60 ราย แบ่งเป็น
• เสียชีวิตจากดินถล่ม 45 ราย
• เสียชีวิตจากเหตุอื่นๆ 12 ราย
• เสียชีวิตจากเรือล่ม 3 ราย
• มีผู้สูญหาย 13 ราย (จากเรือล่ม 6 ราย และสะพานถล่ม 7 ราย)
• มีผู้บาดเจ็บ 412 ราย
• ประชาชนกว่า 146,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่

การช่วยเหลือ

ทางการเวียดนามได้ระดมทีมกู้ภัยกว่า 400,000 นาย พร้อมยานพาหนะเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตาม ความเสียหายต่อระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งส่งผลให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

ทางการเวียดนามคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาวะปกติ และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

 

พายุยางิคร่าชีวิตคนเวียดนามกว่า 35 ราย

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า “ไต้ฝุ่นยางิ” พายุที่รุนแรงที่สุดในเอเชียปีนี้ ได้คร่าชีวิตผู้คนนับสิบในภาคเหนือของเวียดนามและสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางขณะที่เคลื่อนตัวไปทางตะวันตก ตามการประเมินเบื้องต้นของรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ ในขณะที่หน่วยงานด้านอากาศเตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพิ่มเติม

รอยเตอร์สรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 35 รายและสูญหาย 24 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากดินถล่มและน้ำท่วมที่เกิดจากไต้ฝุ่น ตามรายงานของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติของเวียดนาม

ไต้ฝุ่นพัดขึ้นฝั่งเมื่อวันเสาร์บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตขนาดใหญ่ของบริษัทในประเทศและต่างชาติ และถูกปรับลดระดับเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนเมื่อวันอาทิตย์โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยา

พายุทำให้ไฟฟ้าดับในบ้านเรือนและบริษัทนับล้าน น้ำท่วมทางหลวง รบกวนเครือข่ายโทรคมนาคม ทำลายสะพานขนาดกลางและต้นไม้นับพัน และทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในศูนย์อุตสาหกรรมหลายแห่งหยุดชะงัก

ผู้จัดการและคนงานในนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานในเมืองไฮฟอง เมืองชายฝั่งที่มีประชากร 2 ล้านคน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าพวกเขาไม่มีไฟฟ้าและกำลังพยายามกู้อุปกรณ์จากน้ำฝนในโรงงานที่หลังคาโลหะถูกพัดหายไป

"ทุกคนกำลังเร่งทำให้พื้นที่ปลอดภัยและทำให้สต็อกแห้ง" บรูโน จัสแปร์ต หัวหน้านิคมอุตสาหกรรม DEEP C ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานจากนักลงทุนมากกว่า 150 รายในไฮฟองและจังหวัดกว๋างนินห์ที่อยู่ติดกันกล่าว

กำแพงของโรงงานของ LG Electronics บริษัทจากเกาหลีใต้ในไฮฟองได้พังทลายลง ตามภาพถ่ายและพยานของรอยเตอร์

LG Electronics ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภครายใหญ่ กล่าวว่าไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ และยอมรับว่ามีความเสียหายที่ไซต์การผลิต โดยระบุว่าคลังสินค้าที่เก็บตู้เย็นและเครื่องซักผ้าถูกน้ำท่วม

"ความเสียหายมากมาย" ฮง ซุน ประธานสมาคมธุรกิจเกาหลีใต้ในเวียดนามกล่าวเมื่อถูกถามถึงผลกระทบของไต้ฝุ่นต่อโรงงานของเกาหลีในพื้นที่ชายฝั่ง

ผู้จัดการโรงงานให้เช่ายืนยันว่ามีความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อหลังคาและไฟฟ้าดับเป็นเวลานานในจังหวัดทางตอนเหนือ

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าสะพานในจังหวัดฟูโถถล่มเมื่อวันจันทร์ "นี่เป็นสะพานที่มีการสัญจรคับคั่งตามปกติ เป็นสะพานสำคัญในจังหวัด" เจ้าหน้าที่อาวุโสของกรมขนส่งจังหวัดกล่าว โดยเสริมว่ายังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

หน่วยงานด้านอากาศเตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพิ่มเติม โดยระบุว่าปริมาณน้ำฝนอยู่ระหว่าง 208 มิลลิเมตรถึง 433 มิลลิเมตร (8.2 นิ้วถึง 17.1 นิ้ว) ในหลายพื้นที่ของภาคเหนือในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

EVN ผู้ให้บริการไฟฟ้าของรัฐกล่าวว่าลูกค้ามากกว่า 5.7 ล้านรายไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากสายไฟฟ้าหลายสิบสายขาด แต่ไฟฟ้าได้รับการฟื้นฟูในวันจันทร์แล้วเกือบ 75% ของผู้ที่ได้รับผลกระทบ

 

ที่มาเนื้อหา : Reuters

ลิขสิทธิ์ภาพ : Reuters