เปิดวิชั่น CEO “เคหะสุขประชา” บ้านเช่าพร้อมอาชีพ เพื่อครอบครัวเปราะบาง

18 ก.พ. 2566 | 09:48 น.

ภารกิจสเตป 2 ซีอีโอ "เคหะสุขประชา" ทำมากกว่า “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ" เร่งผุดสารพัดโครงการ ทั้ง เกษตรกรรม ปศุสัตว์ ตลาด งานบริการ ศูนย์การค้าปลีกค้าส่ง และอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ยกระดับชีวิตครอบครัวกลุ่มเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

นับย้อนเวลาไปเมื่อ 10 เดือนก่อนหน้านี้ อาจยังไม่มีใครรู้จักถึงคำว่า “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” คืออะไร แต่หลังจากการจัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ภายใต้การเคหะแห่งชาติ โดยการดูแลของ "นายพิษณุพร อุทกภาชน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เริ่มต้นจากโครงการ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ”  ซึ่งนอกจากการสร้างบ้านที่อยู่อาศัยแล้ว ยังได้มอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืน ผ่านอาชีพหลักทั้ง 6 ประการ ได้แก่ เกษตรกรรม ปศุสัตว์ ตลาด งานบริการ ศูนย์การค้าปลีกค้าส่ง และอุตสาหกรรมขนาดเล็ก

  เปิดวิชั่น CEO “เคหะสุขประชา” บ้านเช่าพร้อมอาชีพ เพื่อครอบครัวเปราะบาง

จากวันนั้น คำว่า “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” ก็ถูกพูดถึงและได้รับความสนใจกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในกลุ่ม “ครัวเรือนเปราะบาง” ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการนี้ เพราะมันคือการให้โอกาสครั้งสำคัญที่จะช่วยเหลือชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น จากการมีที่อยู่อาศัยและมีงานทำ
 

นายพิษณุพร เล่าว่า ในปี 2566 ภารกิจที่ต้องทำ ไม่ใช่เพียงแค่การทำ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายโครงการใหญ่ ที่กำลังดำเนินการภายใต้ชื่อ บมจ.เคหะสุขประชา ไม่ว่าจะเป็น โครงการนำร่องฉลองกรุง โครงการนำร่องร่มเกล้า เคหะเกษตรยั่งยืน ระยอง โครงการนำร่องตลาดต้นแบบ 6 ไร่ การฝึกอบรม และอีกหลายโครงการ

เปิดวิชั่น CEO “เคหะสุขประชา” บ้านเช่าพร้อมอาชีพ เพื่อครอบครัวเปราะบาง

ผลงานของปี 2565 ที่ผ่านมาคือการบรรจุผู้เช่าในโครงการเคหะสุขประชา ฉลองกรุง และร่มเกล้า โดยในเดือนกุมภาพันธ์จะสามารถเปิดตลาดสร้างอาชีพที่ฉลองกรุง ส่วนอาชีพของร่มเกล้าคือมินิมอลล์ นับว่าการรอคอยของคนที่อยากได้บ้านพร้อมอาชีพได้เป็นจริงขึ้นแล้ว

ไม่เพียงแต่พื้นที่ในกรุงเทพฯ ในต่างจังหวัด เคหะสุขประชา ก็จัดทำโครงการนำร่องตั้งแต่ปลายปี 2565 เช่น โครงการเคหะเกษตรยั่งยืน เชียงราย 1 ที่ทางบริษัทฯ ได้ร่วมกับทางเครือข่ายโคเนื้อล้านนา ในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพทำไร่ปศุสัตว์ ที่จะสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงให้กับคนในชุมชน และจะขยายโมเดลไปสู่จังหวัดอื่น ๆ เช่น ที่ระยอง และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย


แน่นอนว่า จากภาวะเศรษฐกิจต่าง ๆ ส่งผลให้ต้นทุนการก่อสร้างต่าง ๆ มีราคาที่สูงขึ้น แต่เป็นความโชคดีที่บริษัทฯ มีพันธมิตรอย่าง AMC หรือ บริษัท แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ถือหุ้น ที่ทำบ้านตัวอย่าง และสามารถทำให้บ้านอยู่ในงบประมาณที่กำหนด โดยใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย เป็น Eco-House เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ทำให้สามารถคุมงบประมาณให้เป็นไปตามแผน จากนโยบายการสร้างบ้านเช่าพร้อมอาชีพจำนวน 1 แสนหลังภายในระยะเวลา 5 ปี ตอนนี้ทางบริษัทฯ

 

ได้ดำเนินการขอซื้ออาคารคงเหลือจากการเคหะแห่งชาติจำนวน 18,000 หลัง ตามขั้นตอนต่อไปนั่นคือการซ่อมแซมและนำมาขายหรือปล่อยเช่า ซึ่งจะยิ่งช่วยให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นครัวเรือนเปราะบางได้ที่อยู่อาศัยง่ายและสะดวกขึ้น

 

นอกจากนี้ เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินงานแบบครบวงจร ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการใหม่ ด้วยการเข้าซื้อธุรกิจของ CEMCO เพื่อให้เข้ามาดูแลงานเกี่ยวกับแม่บ้านและการรักษาความปลอดภัย ภายใต้ชื่อ KSS หรือ KEHA Security and Outsource Services Company Limited บริษัท รักษาความปลอดภัย และบริการเอาท์ซอร์ส เคหะ จำกัด

 

และอีกโครงการของปี 2566 นั่นคือ การพัฒนาตลาดจากการเคหะแห่งชาติ โดยจะเริ่มต้นนำร่องที่ 6 ตลาดหลักสำคัญ ได้แก่ ห้วยขวาง บางชัน บ่อนไก่ คลองจั่น รามคำแหง หัวหมาก ให้เป็นตลาดต้นแบบ นอกจากนี้ยังมีการเช่าพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณถนนเคหะร่มเกล้าซอย 29 ซึ่งอยู่ข้างบริษัทฯ เพื่อนำมาทำตลาดต้นแบบด้วยเช่นกัน  เป็น smart market มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ มีการฝึกอาชีพต่าง ๆ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อย่างมาก

 

สำหรับโครงการเรื่องฝึกอบรมที่เป็นหัวใจหลักของบริษัท ยังคงเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะจัดหลักสูตรอบรมทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการร่วมมือกับกรมการจัดหาแรงงาน เรื่องการส่งแรงงานไปยังต่างประเทศ เช่นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีตลาดแรงงานรองรับอยู่

 

คอนเซ็ปต์หลักคือการที่เราให้บ้านเช่าพร้อมอาชีพ เพราะฉะนั้นในโครงการ ผู้เช่าจะไม่สามารถปฏิเสธอาชีพได้ และที่สำคัญที่สุดคือ ที่นี่จะเป็นโครงการสีขาวที่จะปลอดเรื่องยาเสพติดและการพนันทุกชนิด สิ่งนี้จะทำให้บ้านเช่าพร้อมอาชีพ ไม่ใช่แค่โมเดลสร้างฝัน แต่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมจริง ๆ

 

กลยุทธ์ของเคหะสุขประชา ที่ยังคงเดินหน้าต่อไปภายในปี 2566 นั่นคือ การพัฒนาเศรษฐกิจสุขประชา เพื่อคุณภาพผู้อยู่อาศัยแบบครบวงจร  มีการสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมเป็นศูนย์กลางแรงงานและแหล่งอาชีพเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างบ้านเช่าที่มีคุณภาพด้วย Universal Design หรืออารยสถาปัตย์สำหรับครัวเรือนเปราะบาง และสุดท้ายคือการสร้าง Eco System ตามแนวคิดสำหรับเคหะสุขประชา

 

ทุกโครงการที่กล่าวไปแล้ว ปี 2566 จะได้เห็นอะไรที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ตัวเลขรวม ๆ ของทุกโครงการไม่น่าจะต่ำกว่าหมื่นล้าน ก้าวแรกผ่านไปแล้ว แม้จะหนักหนา แต่ก้าวที่สอง ถือเป็นความท้าทายยิ่งกว่า ทุกอย่างมันไม่ง่าย ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทุกคนต้องอดทน เพื่อเดินหน้าต่อไปพร้อม ๆ กัน