ลุยดันไทยสู่ “ฮับฮาลาลอาเซียน” ชิงส่วนแบ่งตลาดโลก 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

04 ก.ย. 2567 | 04:58 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2567 | 05:27 น.

รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย เปิดงาน Halal Inspinum ขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางฮาลาลอาเซียน ชิงส่วนแบ่งตลาดฮาลาลโลกมูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ตั้งเป้าปี 2570 พุ่งแตะ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ ยกระดับสินค้าฮาลาลพรีเมียม ส่งออกสู่ตลาดมีกำลังซื้อสูง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย Halal Inspinum สร้างแรงบันดาลใจนำอัตลักษณ์ไทยสู่สากล พร้อมด้วยนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

โดยมีนายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี และตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐฐมนตรี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน (ASEAN Halal Hub) ตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยศักยภาพและความพร้อมในด้านต่าง ๆ

ทั้งการเป็นฐานการผลิตสินค้าฮาลาลที่มีคุณภาพ การมีแรงงานและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งมีศักยภาพ อีกทั้งยังมีภาคการท่องเที่ยวเป็นจุดขาย ซึ่งทำให้ประเทศไทยยังมีโอกาสในการขยายตลาดไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลก

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมฮาลาลในตลาดโลกมีมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ที่คาดว่าจะทะยานแตะ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2570 ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย ที่ต้องรุกตลาดมุสลิม 1 ใน 4 ของประชากรโลก

โดยมีผู้ประกอบการฮาลาลกว่า 15,000 ราย มีสินค้าฮาลาลกว่า 166,000 รายการ พร้อมร้านอาหารฮาลาลอีก 3,500 ร้าน เป็นการตอกย้ำศักยภาพการส่งออกปี 2566 มีมูลค่า 216,698 ล้านบาท โตเฉลี่ย 2.6% ขึ้นแท่นผู้ส่งออกอาหารฮาลาลอันดับ 11 ของโลก

ลุยดันไทยสู่ “ฮับฮาลาลอาเซียน” ชิงส่วนแบ่งตลาดโลก 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทย ตามนโยบายที่ได้มอบไว้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมจึงได้จัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบอุตสาหกรรมฮาลาลในรูปแบบ "ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล" (ระยะสั้น) ภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติ พัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567-2571) 

และการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอช.) เพื่อทำแผนการขยายตลาดสินค้าฮาลาลไปยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ประเทศชาอุดีอาระเบีย กลุ่มประเทศอาเซียน และประเทศ Non-Muslim อื่น ๆ ทั่วโลก เป็นต้น

"อุตสาหกรรมฮาลาลมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันมีประชาชนกรมุสลิมเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ใความต้องการสินค้าฮาลาล เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีความปลอกภัยสูง ที่ผ่านกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการขยายตลาดร่วมกันไปยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูง อาทิ กลุ่มประเทศอาเซียน ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งถือเป็นประเทศที่นำเข้าสำคัญของโลก" นายภูมิธรรม กล่าว

ลุยดันไทยสู่ “ฮับฮาลาลอาเซียน” ชิงส่วนแบ่งตลาดโลก 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมฮาลาลยังสามารถยกระดับความเป็นอยู่ และสร้างรายได้ ให้กับประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่ที่ชาวมุสลิมดำเนินชีวิตอยู่ และมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ และส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง 

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงาน "HalaI Inspirium" ครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือกับพันธมิตร อาทิ ผู้แทนการค้าไทยการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (CICOT) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร สถาบันพัฒนา อุตสาหกรรมสิ่งทอ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) พร้อมหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกมาก 

ลุยดันไทยสู่ “ฮับฮาลาลอาเซียน” ชิงส่วนแบ่งตลาดโลก 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

"ฮาลาลไทยไม่ได้มีดีแค่อาหาร เรามีครบวงจรตั้งแต่เครื่องสำอาง แฟชั่น ยันการท่องเที่ยว พร้อมเปิดเวทีให้ 40 ผู้ประกอบการชั้นนำโชว์ศักยภาพเจรจาทางการค้า รวมถึงผู้ที่สนใจเข้าชม ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าหลายประเทศมุสลิมมีความต้องการนำเข้าสินค้าฮาลาลจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น

เนื่องจากไม่สามารถผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการในประเทศ ทำให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาด" ขณะเดียวกัน การรับรองฮาลาลกลายเป็นเครื่องหมายของคุณภาพและความปลอดภัย ทำให้สินค้าที่มีตราฮาลาลสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลาย ผู้บริโภคที่ไม่ใช่มุสลิมก็เริ่มให้ความสนใจใจในผลิตภัณฑ์ฮาลาล ทำให้ตลาดนี้มีความน่าสนใจต่อผู้ผลิตลิตสินค้าและบริการทั่วไปที่ต้องการขยายกลุ่มเป้าหมายความร่วมมือครั้งนี้

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุน ปัจจัยแวดล้อมของอุตสาหกรรมฮาลาลไทย มีภารกิจในการยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต โดยเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์และยกระดับมาตรฐาน รวมทั้งขยายตลาดส่งออกสินค้าฮาลาล ผลิตภัณฑ์เป้าหมาย เช่น อาหาร ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง แฟชั่นมุสลิม 

สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการเริ่มธุรกิจด้านฮาลาล ทางศูนย์มีบริการให้คำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาดในการเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคมุสลิมทั้งในและต่างประเทศ ให้คำแนะนำในการวิจัยพัฒนา และยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าฮาลาล และการขอรับรองมาตรฐาน

สำหรับในส่วนของผู้ผลิตรายเดิมที่สนใจผลิตสินค้าฮาลาล ทางศูนย์มีบริการให้คำปรึกษาในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สอดดคล้องตามมาตรฐานฮาลาลและมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น GHP, HACCP เป็นต้น

และมีโปรแกรมในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย และเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออก และสำหรับผู้ประกอบการที่มีความต้องการด้านเงินทุน ทางศูนย์ได้มีความร่วมมือกับธนาคาร เช่น EXIM Bank, SME D Bank และ ธนาคารอิสลาม เป็นเครือข่ายพันธมิตรในการ ให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการ พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับอย่างครบวงจร เพื่อส่งเสริมของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีสากล 

นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังให้บริการห้องปฏิบัติการด้านฮาลาล เพื่อตรวจวิเคราะห์สารต้องห้าม เช่น ส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และพันธุกรรม (DNA) ของสุกร รวมทั้งยกระดับขีดความสามารถในการตรวจทดสอบ โดยเชื่อมโยงเครือข่ายห้องปฏิบัติการทดสอบ ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นต้น