ไทยลุยส่งออก "ส้มโอ" ชิปเมนท์แรกไปสหรัฐฯ ร่วมฉลองความสัมพันธ์ 190 ปี

16 มิ.ย. 2566 | 10:04 น.

ไทยดีเดย์ส่งส้มโอชิปเมนท์แรกไปสหรัฐฯ 26 มิ.ย. โชว์แผนดันส่งออกทั้งปี ทั้งทางอากาศ ทางน้ำไม่ให้สะดุด พร้อมประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยในวันชาติสหรัฐฯ 2 ก.ค. ร่วมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ครบ 190 ปี เล็งถก USDA ขอลดโดสปริมาณรังสีแกมมาในการฉายรังสี

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ได้มอบหมายให้นายมาร์ค กิลคีย์ (Mr. Marc Gilkey) ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกใต้  ผู้แทนจากสำนักงานให้บริการตรวจสอบพืชและสัตว์ (APHIS) กระทรวงเกษตรและสหรัฐอเมริกา (USDA) ประจำกรุงเทพมหานคร เข้าพบเพื่อมอบหนังสือแจ้งผลอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ตามที่ APHIS ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพการแพร่กระจายรังสี (dose mapping) ในบรรจุภัณฑ์ส้มโอ ก่อนการส่งออกที่ประเทศไทยนั้น ผลการดำเนินการได้สิ้นสุดแล้ว และได้แจ้งให้กรมวิชาการเกษตรทราบว่า ได้อนุญาตศูนย์ฉายรังสีของประเทศไทย สามารถดำเนินการฉายรังสีเพื่อการส่งออกส้มโอผลสดไปสหรัฐอเมริกาได้แล้ว พร้อมทั้งโรงคัดบรรจุที่ได้รับอนุญาตในการดำเนินการส่งออกส้มโอได้

ไทยลุยส่งออก \"ส้มโอ\" ชิปเมนท์แรกไปสหรัฐฯ ร่วมฉลองความสัมพันธ์ 190 ปี

“นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอ รวมทั้งผู้ประกอบการส่งออกผลไม้จะได้เพิ่มตลาดส่งออกได้มากขึ้น ซึ่งสหรัฐอเมริกานับได้ว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับการส่งออกส้มโอจากประเทศไทยซึ่งมีคุณภาพมาตรฐานสากลและรสชาติที่หวานฉ่ำและมีสีสันสวยงาม”

ไทยลุยส่งออก \"ส้มโอ\" ชิปเมนท์แรกไปสหรัฐฯ ร่วมฉลองความสัมพันธ์ 190 ปี

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวอีกว่า ทางกรมฯ และ APHIS ได้จัดทำโครงการ Pre Clearance Program ส่งออกผลไม้ ไปสหรัฐอเมริกา โดยที่ผ่านมา หน่วยงาน APHIS ให้การรับรองผลการทำ dose mapping ผลไม้สด 8 ชนิดคือ มะม่วง ลิ้นจี่ ลำไย สับปะรด มังคุด แก้วมังกร และเงาะ ที่ต้องฉายรังสีแกมมา ปริมาณ 400 เกรย์ ก่อนการส่งออก โดยส้มโอเป็นผลไม้ชนิดล่าสุด

ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ส่งออก เกษตรกร และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทำแผนการส่งออกผลไม้สดทั้ง 8 ชนิด สามารถส่งออกได้ตลอดทั้งปี ทาง APHIS จะจัดเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตามแผนที่ผู้ส่งออกจัดทำไว้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเป็นการขยายการส่งออก และเป็นการลดค่าตรวจของเจ้าหน้าที่ของ APHIS ที่จะมาดำเนินการในประเทศไทย ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนของโครงการ

ไทยลุยส่งออก \"ส้มโอ\" ชิปเมนท์แรกไปสหรัฐฯ ร่วมฉลองความสัมพันธ์ 190 ปี

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยังได้ให้นโยบายกับ นายปัญญา พุกสุ่น ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช ในการจัดทำแผนการส่งออกส้มโอชิปเมนท์แรกของประเทศไทยไปสหรัฐฯ ทั้งทางอากาศ และทางน้ำ ดังนี้ แผนทางอากาศ ประเทศไทยมีกำหนดการส่งออกส้มโอฉายรังสี พันธุ์ทองดี ขาวใหญ่ ขาวน้ำผึ้ง และ ขาวแตงกวา จำนวน 72 กล่อง น้ำหนัก 864 กิโลกรัม (กก.) ไปสหรัฐฯครั้งแรก ในวันที่ 26 มิถุนายน 2566 

ในชิปเมนท์ดังกล่าวยังได้จัดส่งมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ มหาชนก แดงจักรพรรดิ และเขียวเสวย จำนวน 108 กล่อง น้ำหนัก 540 กก.รวมทั้งมังคุด จำนวน 20 กล่อง น้ำหนัก 140 กก. เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยในวันชาติของสหรัฐอเมริกา วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 โดยจัดแสดงผลไม้ในงานเทศกาล Sawasdee DC Thai Festival ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐอเมริกา ครบรอบ 190 ปี

ไทยลุยส่งออก \"ส้มโอ\" ชิปเมนท์แรกไปสหรัฐฯ ร่วมฉลองความสัมพันธ์ 190 ปี

ส่วนแผนทางเรือ บริษัท  DP Produce Inc. จะส่งออกส้มโอ พันธุ์ทองดี และขาวน้ำผึ้ง จากประเทศไทยไปนครลอสแอนเจลิสทางเรือ โดยเริ่มส่งออกวันที่ 1 สิงหาคม 2566 ขนส่งโดยตู้บรรจุสินค้าขนาด 20 ตัน จำนวน 700 กล่อง ปริมาณ 8,400 กก. เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียล (ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทยไปสหรัฐฯประมาณ 30 วัน ซึ่งจะไม่ทำให้ส้มโอฉายรังสีเสียหาย และรสชาติเปลี่ยนแปลง

สำหรับปริมาณและมูลค่าการส่งออกส้มโอของไทย ในปี 2565 พบว่า ไทยมีการส่งออกส้มโอผลสดไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จำนวน 33,531 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,474.71 ล้านบาท โดยผู้ส่งออกที่สนใจจะส่งส้มโอฉายรังสีไปสหรัฐฯ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานกำจัดศัตรูพืชกักกัน กลุ่มวิจัยการกักกันพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร. 0 2940 6573 ต่อ 142

ไทยลุยส่งออก \"ส้มโอ\" ชิปเมนท์แรกไปสหรัฐฯ ร่วมฉลองความสัมพันธ์ 190 ปี

“กรมวิชาการเกษตร ยังได้หารือกับ APHIS ถึงความเป็นไปได้ในการลด dose ปริมาณรังสีแกมมาในการฉายรังสีผลไม้ให้ต่ำกว่า 400 เกรย์ และ ขอลดค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อตรวจสอบศัตรูพืชก่อนการส่งออก  ซึ่งคณะผู้แทนจากกรมวิชาการเกษตรมีกำหนดการเดินทางไปสหรัฐฯในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหารือความร่วมมือกับ USDA อย่างใกล้ชิด ในประเด็นการขอลด dose ปริมาณรังสีแกมมาในการฉายรังสี รวมถึงความร่วมมือด้านการเกษตรของทั้งสองประเทศในด้านอื่น ๆ ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม การแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่ออบรมแลกเปลี่ยนความรู้ และสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีทางการทูตระหว่างไทยและสหรัฐฯที่มีมาอย่างยาวนานถึง 190 ปี” นายระพีภัทร์ กล่าวตอนท้าย