“อลงกรณ์”มั่นใจ ปี 66 เปิดประตูอีสานขนส่งสินค้าเกษตรสู่ยุโรป-แปซิฟิก

25 ม.ค. 2566 | 03:42 น.

"อลงกรณ์"มั่นใจ ปี 66 เปิดประตูอีสาน ขนส่งสินค้าเกษตร สู่ยุโรปและแปซิฟิกสำเร็จ หลัง "กรกอ."เห็นชอบร่างแผนพัฒนาสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมอีสานตอนบน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2566 หัวข้อสำคัญในการประชุม ดังนี้

 1. ความก้าวหน้าโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์น้ำและการเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาสวยงามในการส่งออกต่างประเทศ ( Aqua Feed & Ornamental Freshwater Fish Industry : AFOF)

    2. การดำเนินงานของคณะอุตสาหกรรมความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระดับภาค(กรกอ.ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้)
     3.ความก้าวหน้าการขับเคลื่อน Big Data และ Gov Tech ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เชื่อมบิ๊กดาต้ากับภาครัฐและภาคเอกชน
     4. การส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการผลิตภาคเกษตร
 

“อลงกรณ์”มั่นใจ ปี 66 เปิดประตูอีสานขนส่งสินค้าเกษตรสู่ยุโรป-แปซิฟิก

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาสินค้าเกษตรที่สำคัญตามศักยภาพแบบครบวงจรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (หนองคาย อุดรธานี เลย หนองบัวลำภูและบึงกาฬ)และตอนบน 2(นครพนม มุกดาหารและสกลนคร)
   
 กลุ่มอีสานตอนบน1-2 มี 8 จังหวัดเป็นพื้นที่มีศักยภาพด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรภายใต้นโยบายเชื่อมอีสานเชื่อมโลกและนโยบายประตูอีสาน หรือ อีสานเกตเวย์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ.และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์

นับแต่มีการเปิดเส้นทางรถไฟจีน-ลาว เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ทำให้สามารถส่งสินค้าเกษตร ไปยังประเทศจีนได้สำเร็จเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2565 

   

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์และภาครัฐภาคเอกชน เช่น สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการประสานงาน กับคาซัคสถานและบริษัทดีพี.เวิลด์(DP World) ของรัฐบาลดูไบ ตั้งแต่ปลายปี 2562 ในการขยายการขนส่งสินค้าเกษตร ผ่านจีนไปประเทศ ในเอเชียกลาง ตะวันออกกลางและยุโรป

รวมทั้งการเปิดเส้นทางขนส่งใหม่ จากนครพนมผ่านลาว ไปยังท่าเรือหวุ่งอ๋างของเวียดนาม มั่นใจว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ เป็นการสร้างโอกาสใหม่ ให้กับภาคอีสานและประเทศไทย กรกอ.จะเดินหน้าต่อในปี 2566

สำหรับโครงการเรือธง 2โครงการหลัก ได้แก่ โครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร เพื่อกระจายฐานการลงทุนและการแปรรูปสร้างมูลค่าสินค้าเกษตร เพิ่มรายได้เกษตรกร

และโครงการเกษตรแม่นยำ 5 ล้านไร่หลังจากบรรลุผลสำเร็จแล้ว2ล้านไร่ เป็นการจับคู่ระหว่างเกษตรแปลงใหญ่ กับบริษัทโรงงานขนาดใหญ่ ในอุตสาหกรรมเกษตร