CAAT อนุญาตให้บินโดรน บรรเทาน้ำท่วมภาคใต้ หลังเวลา 18.00 น.ได้ ภายใต้เงื่อนไข

25 พ.ย. 2568 | 12:21 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2568 | 12:30 น.

CAAT ออกประกาศอนุญาตให้ใช้งานโดรนเพื่อบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่อุทกภัยภาคใต้ บินหลังเวลา 18.00 น. ได้ภายใต้เงื่อนไข เช็คที่นี่

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ออกประกาศ “อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) เพื่อการดำเนินงานด้านการบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ พ.ศ. 2568” ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐในการค้นหา กู้ภัย และช่วยเหลือประชาชนในภาวะน้ำท่วมภาคใต้ที่ยังคงส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

ประกาศฉบับนี้อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่หน่วยงานของรัฐประกาศหรือรับรองว่าอยู่ในภาวะประสบอุทกภัย รวมถึงพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด พื้นที่หวงห้ามเฉพาะ และพื้นที่อันตราย ที่อยู่ภายในเขตพื้นที่ประสบภัย เพื่อใช้สนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยตรงและเพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่สามารถปฏิบัติงานได้ต่อเนื่องในสภาวะฉุกเฉิน ประกาศฉบับนี้กำหนดว่าสามารถปฏิบัติการบินหลังเวลา 18.00 น. ได้โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข

CAAT อนุญาตให้บินโดรน บรรเทาน้ำท่วมภาคใต้ หลังเวลา 18.00 น. ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

  • อากาศยานไร้นักบินต้องติดตั้งไฟระบุตำแหน่งและทิศทางการเคลื่อนที่อย่างชัดเจน
  • ผู้บังคับหรือผู้ปล่อยโดรนต้องประสานกับหน่วยปฏิบัติการภาคพื้น หน่วยกู้ภัย หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนภารกิจช่วยเหลือประชาชน และต้องไม่กีดขวางเส้นทางบินของอากาศยานของรัฐหรืออากาศยานที่ปฏิบัติการฉุกเฉินอื่นๆ
  • การทำการบินในพื้นที่สนามบินอนุญาต หรือพื้นที่ภายในระยะ 9 กิโลเมตร ( 5 ไมล์ทะเล) จากสนามบินอนุญาต ที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัย ก่อนปฏิบัติการบินทุกครั้ง ต้องแจ้งขออนุญาตจากสนามบิน และจะปฏิบัติการบินได้เมื่อได้รับอนุญาตจากสนามบินแล้วเท่านั้น

ผู้ได้รับอนุญาตตามประกาศนี้ ต้องแจ้งข้อมูลพื้นที่ปฏิบัติการบิน และวัน เวลา ในการปฏิบัติการบิน ต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ คลิ๊ก ภายใน 30 วัน ภายหลังจากสถานการณ์อุทกภัยสิ้นสุดลง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนของประเทศต่อไป

CAAT ระบุว่าการออกประกาศครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมของหน่วยงานรัฐในสภาวะฉุกเฉิน ขณะเดียวกันยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยการบินอย่างเข้มงวด เพื่อให้ภารกิจช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และปลอดภัยสูงสุด