นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวล่าสุดของรัฐบาล ก็ยอมรับว่าช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้บ้าง แต่ไม่ตรงจุดเท่าที่ควร เพราะมาตรการบางส่วนอาจยังไม่สามารถเข้าถึงและช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” ซึ่งเป็นการลดหย่อนภาษี มาตรการนี้ “คงช่วยได้” เพราะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีในกลุ่มบุคคลที่มีรายได้ค่อนข้างดี คือ ผู้ที่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้จะต้องเป็นผู้ที่มีเงินเพียงพอในการท่องเที่ยว และอยู่ในฐานภาษีที่สามารถใช้สิทธิได้
ขณะนี้ทางสมาคมโรงแรมไทย ก็กำลังประชาสัมพันธ์ และเปิดอบรมสมาชิก เพื่อเข้าระบบ e-invoice เพื่อรองรับมาตรการนี้ ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย ที่ยังมีความรู้เรื่องนี้น้อยอยู่
สำหรับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก มาตรการนี้โรงแรมขนาดเล็กอาจไม่ได้ประโยชน์ แต่กลุ่มที่ได้รับประโยชน์หลักมักจะเป็น โรงแรม 5 ดาว ซึ่งส่วนใหญ่มักบริหารโดยเชนโรงแรมขนาดใหญ่ กลุ่มนี้มักจะมีรายได้และดำเนินการรีโนเวทตามระยะเวลาอยู่แล้ว
ในทางกลับกัน โรงแรมที่เป็นคนไทย หรือโรงแรมระดับ 3 ดาวลงมา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการการรีโนเวทอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นโรงแรมเก่าที่ประสบปัญหาขาดทุนและขาดทุนจากการระบาดของโควิด กลับอาจไม่ได้รับผลประโยชน์จากสิทธิทางภาษีนี้ เนื่องจากหากพวกเขาประสบภาวะขาดทุน พวกเขาก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีได้เต็มที่
ผมจึงมองว่าหากต้องการให้โรงแรมอยู่ในสภาพที่ดีและเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวไทย รัฐบาลควรพิจารณามาตรการเสริมที่ตรงจุดยิ่งกว่านั่นคือ การจัดทำ Soft Loan (เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการรีโนเวทโรงแรมตามเงื่อนไขที่ กำหนด เพราะสิทธิ์ทางภาษีอาจไม่เกิดประโยชน์หากผู้ประกอบการไม่มีเงินทุนหมุนเวียนพอที่จะไปรีโนเวท
ด้านมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของข้าราชการสำหรับการจัดสัมมนาหรือกิจกรรมต่างๆ นั้น ถูกมองว่าเป็นมาตรการที่ดี แต่การดำเนินการในช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) นี้กลับเป็นปัญหาเนื่องจาก งบประมาณราชการมีราคาคงที่ และไม่ได้มีการปรับมาเป็น 10 ปีแล้ว โรงแรมส่วนใหญ่จึงไม่ต้องการรับกรุ๊ปราชการในช่วงไฮซีซัน
ดังนั้นหากโรงแรมสามารถเลือกรับลูกค้ารายอื่นได้ การมาเร่งเบิกจ่ายในช่วงเดือนตุลาคม 2568-มกราคม 2569 จึงแทบไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นช่วงไฮซีซัน โรงแรมคงเลือกที่จะรับนักท่องเที่ยวมากกว่า กลุ่มข้าราชการ เนื่องจากได้ราคาที่ดีกว่า
ด้านนายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในการลดหย่อนภาษี เป็นมาตรการที่ทำกันต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศที่ดี แต่ในปีนี้ อาจจะคาดหวังได้ไม่มากนักเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก ทำให้งบประมาณรายจ่ายจากภาคธุรกิจ และ ครอบครัวมีน้อยลงตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นมาตรการเชิงบวกทางเศรษฐกิจ
ขณะที่มาตรการสนับสนุนภาคการโรงแรมปรับปรุงลงทุนพัฒนาโครงสร้างถือว่าเป็นมาตรการที่ดีมาก ๆ เพราะการพัฒนา supply side ของภาคการท่องเที่ยวไทย ถือเป็นมาตรการที่สำคัญที่สุดของการท่องเที่ยวไทยในปัจจุบันซึ่งเป็นมาตรการยกระดับการบริการและการแข่งขันของการท่องเที่ยวในเวทีโลก
โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนที่ปัจจุบันต่างมีผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ใหม่สดมาแข่งกับประเทศไทยกันมากมายแต่เรากลับมีลงทุนด้าน supply side ที่น้อยกว่าคู่แข่งในตลาดโลก
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,144 วันที่ 30 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568