ท่องเที่ยวพอใจโฉมหน้าครม.ใหม่ ‘อนุทิน’ หนุน คนละครึ่ง เที่ยวไทยคนละครึ่งเฟส 2

09 ก.ย. 2568 | 18:37 น.

ท่องเที่ยวพอใจโฉมหน้าครม.ใหม่ ‘อนุทิน’ ขานรับดึงเอกชนร่วมทีม สร้างความสมดุลระหว่างการเมืองและความคาดหวังของประชาชน สมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย เสนอดันเศรษฐกิจแบบ Quick Win โครงการอิ่มคนละครึ่ง เที่ยวไทยคนละครึ่งเฟส 2 แอตต้า หนุน คนละครึ่ง ด้านสมาคมโรงแรม จี้สร้างโอกาสเจรจาแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

 

 

 

 

 

 

 

นายกิตติ พรศิวะกิจ นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า โผ ครม.ใหม่ อนุทิน ชาญวีรกูล ในส่วนของคนนอกถือว่าครบเครื่อง ตอบโจทย์ภาคเอกชน ที่ได้คนเก่ง คนดี มีประสบการณ์ตรงกับกระทรวงที่รับผิดชอบทุกท่าน ทั้งด้านการคลัง การต่างประเทศ เศรษฐกิจ กฏหมาย ความมั่นคง เกรด A ทุกท่าน อย่างไรก็ตาม คนท่องเที่ยวฝากขอมาว่าหากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รัฐมนตรีที่มีประสบการณ์ตรงแบบนีบ้างน่าจะสามารถแก้วิกฤตท่องเที่ยวในช่วงนี้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับข้อเสนอเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจแบบ Quick Win 1. อิ่มคนละครึ่ง งบประมาณ 60,000 ล้านบาท สำหรับประชาชน 30 ล้านคน x 2,000 บาทต่อคน 2. เที่ยวไทยคนละครึ่งเฟส 2 งบประมาณ 3,000 ล้านบาท สิทธิละ 1,500 บาท x 2 ล้านสิทธิ เพื่อกระจายรายได้สู่เมืองรองและโรงแรมขนาดเล็ก 3. SME คนละครึ่ง 20,000 ล้านบาท สนับสนุน ผู้ประกอบการ SME  ในการยกระดับมาตรฐาน พัฒนาสินค้า เทคโนโลยี องค์ความรู้ และความยั่งยืน

 

4. เรียนดีคนละครึ่ง งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะแห่งอนาคต เช่น AI / Digital Marketing / Green Innovation / อาหารไทย / ภาษาต่างประเทศ ฯลฯ 5. ส่งเสริมคนไทยและต่างชาติเที่ยวไทยสู่เมืองรอง 2,000 ล้านบาท Joint Promotion ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า รถตู้ รถบัส สู่เมืองรอง

กิตติ พรศิวะกิจ

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า โฉมหน้าครม.เป็นความพยายามในการสร้างความสมดุลระหว่างการเมืองและความคาดหวังของประชาชนจากการเชิญคนนอกที่เป็นมืออาชีพในแต่ละด้านมาผสมผสานกับโควต้าตัวแทนพรรคการเมือง ถือว่าเป็นภาพลักษณ์ที่สร้างความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่งจากการมีโควต้าคนนอกมานั่งบริหารกระทรวงเศรษฐกิจหลักที่มีความพร้อมในการทำงานได้ทันที  ซึ่งการเชิญคนนอกมืออาชีพใช้ตรงกับงานก็เสมือนมีวัตถุดิบได้เชพเก่งมาปรุงแต่งย่อมทำให้คนคาดหวังรออาหารจานอร่อยจากเชพมือดีนั่นเอง

“การเริ่มต้นของ รัฐบาลอนุทิน ถือว่า ทำได้ดีระดับหนึ่งในการดูแลความคาดหวังของสังคมกับการสร้างความสมดุลในการด้านความคาดหวังทางการเมือง แต่ผลจากทำงานของรัฐบาลจะเป็นตัวชี้วัดที่แท้จริง”

สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขในระยะสั้น ผมมองว่าเศรษฐกิจที่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นระยะสั้นตามกระแส “คนละครึ่ง” ถือว่าช่วยประชาชนในตรงจุด ส่วนการต่างประเทศ ควรเร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์บนเวทีต่างประเทศในการเรียกความเชื่อมั่นด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว  การยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในการปราบปรามกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด และ Call center รวมถึง รถสาธารณะที่มีปัญหาด้านการฉ้อโกงนักท่องเที่ยว

อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เชื่อว่าการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการเจรจาแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาได้สำเร็จ หลังจากที่รัฐบาลชุดก่อนยังไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านที่รัฐบาลอาจมีเวลาทำงานเพียง 4 เดือน ก็ยังสามารถเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ความปลอดภัยให้ประเทศได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากมาย

สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ คือ การสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย หากสามารถทำให้เห็นได้ชัดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยได้อย่างปลอดภัย โอกาสในการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นทันที เพราะพื้นฐานของการท่องเที่ยวไทยยังแข็งแกร่งและพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลตั้งทีมโฆษกเฉพาะกิจด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยว ทำหน้าที่สื่อสารความคืบหน้าการจับกุมผู้กระทำผิด การปราบปรามขบวนการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว

เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์

รวมถึงมาตรการเชิงรุกที่หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการ โดยแถลงข่าวอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังและความโปร่งใส การรายงานอย่างต่อเนื่องจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย ไม่ใช่การต่อต้านข่าวลบ แต่เป็นการตอบสนองต่อข่าวสารอย่างทันท่วงที หากทำได้จริงจะเป็นผลงานที่จับต้องได้ของรัฐบาล แม้จะอยู่ในวาระเพียงไม่กี่เดือน

ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้ผู้ที่ได้รับตำแหน่งมีประสบการณ์ในแวดวงท่องเที่ยว หรืออย่างน้อยมีความสามารถในการบริหารจัดการและรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชนอย่างจริงจัง ภาคเอกชนมีประสบการณ์ตรงกับปัญหาและความต้องการของนักท่องเที่ยว ถ้ารัฐบาลนำข้อเสนอแนะของเราไปปรับใช้อย่างจริงจัง จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมแน่นอน