นางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. กล่าวว่า อว.มีแผนจะการพัฒนาคน ผ่านโครงการ “หนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย” ที่มุ่งผลิตเชฟมืออาชีพระดับสากล สามารถนำเสนออาหารไทยในระดับมาตรฐานโลก โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายฝึกอบรม 500 คน ในปี 2569 เพิ่มขึ้นจาก 200 คนในปีนี้
โดยโครงการนี้จะใช้ศูนย์ฝึกอบรมในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยมีการวางแผนเพิ่มจำนวนศูนย์ฝึกอบรมเป็น 50 แห่ง และห้องปฏิบัติการเพื่อการเรียนรู้ด้านการทำอาหารไทยจำนวน 110 ห้อง ซึ่งศูนย์เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือในการสร้างเชฟมืออาชีพในอนาคต
“เป้าหมายระยะยาวคือการผลิตเชฟมืออาชีพมากกว่า 75,000 คน ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยมุ่งเน้นการผลิตเชฟที่มีมาตรฐานการทำอาหารที่สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับนานาชาติ” นางสุดาวรรณกล่าว
นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงอุดมศึกษาได้สนับสนุนงานวิจัยในสาขา Soft Power มากกว่า 12,000 งานวิจัย ตั้งแต่ปี 2563-2568 ครอบคลุมแฟชั่น หนังสือ ภาพยนตร์ และศิลปะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่างๆ การพัฒนางานวิจัยในประเทศไทยในปัจจุบันไม่เพียงแต่เป็นการศึกษาเพื่อค้นหาคำตอบหรือความรู้ใหม่ๆ
แต่ยังต้องมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาท้องถิ่นและการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศการขับเคลื่อน Soft Power ผ่านการศึกษา งานวิจัย และนวัตกรรม
เรามีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ทุเรียนไทย ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก ให้ส่งออกไปทั่วโลกในปริมาณมากและมีมาตรฐานเดียวกัน โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจสอบและเพิ่มคุณภาพ การสร้างความยั่งยืนจากการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
โดยการทำให้กระบวนการปลูกและการผลิตในภาคการเกษตรมีความยั่งยืน การประยุกต์ใช้นวัตกรรมและงานวิจัย เพื่อช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ไทยได้รับการยอมรับในตลาดโลก และการใช้ เทคโนโลยี ในการ ทำนายเหตุการณ์ทางธรรมชาติ เช่น การทำนายภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น น้ำท่วมหรือภัยแล้ง ซึ่งจะช่วยเสริม ภาพลักษณ์ ของประเทศไทยให้เป็นผู้นำในการ จัดการกับภัยพิบัติ และสามารถให้ข้อมูลและการเตือนภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ทันท่วงที
รวมถึงส่งเสริมโครงการ Thai Youth Street Art ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจาก 42 สถาบันอุดมศึกษา ทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนกำแพงเมือง ซึ่งสร้างผลกระทบทั้งในด้านการเสริมสร้างการรับรู้ด้านศิลปะและการพัฒนาเยาวชนด้านศิลปะใหม่ๆ ในประเทศเราจะใช้โครงสร้างพื้นฐาน 171 หน่วยงาน ภายใต้การกำกับของกระทรวงอุดมศึกษา เป็นแกนหลักในการพัฒนา Soft Power อย่างยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมสตูดิโอผลิตสื่อและพื้นที่ทำงานร่วมสำหรับการสร้างสรรค์
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ประเทศไทยกำลังปรับโฟกัสจากการดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงปริมาณ สู่การเน้นคุณภาพและความยั่งยืน โดยใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือหลัก โดยในปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประกาศแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ Soft Powerในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมมวยไทยที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ หรือการใช้ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่
แม้ขณะนี้เราจะเผชิญกับความท้าทายจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน และสถานการณ์ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง แต่กระทรวงฯ มองว่าเป็นโอกาสในการ “สกรีน” นักท่องเที่ยวให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณอย่างสมดุล สิ่งที่เราอยากเห็นในอนาคตคือการมีจุดท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และมีการจัดเทศกาลใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
ซึ่งแนวทางที่เราจะทำคือตั้งเป้าในการทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจะต้องมา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ หรือการสร้างกิจกรรมที่สามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในเรื่องต่างๆ เช่น งานเทศกาลที่มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทย อีกทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวเร่งนำเทคโนโลยี AI มาเสริมความปลอดภัย โดยมีตำรวจท่องเที่ยว 1,800 นาย ทำงานร่วมกับระบบจดจำใบหน้าและการเฝ้าระวังแบบเรียลไทม์
ทั้งยังเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับกีฬา โดยในด้านกีฬาเรามีแผนจะส่งเสริมการแข่งขันระดับโลกที่ประเทศไทย เช่น การจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลกในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สำคัญและจะเป็นที่จับตามองจากทั่วโลก และในช่วงปลายปีนี้ ประเทศไทยยังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก
นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อมีการถ่ายทำในประเทศไทย ทำให้สถานที่เหล่านั้นได้รับการโปรโมทไปทั่วโลก กระทรวงการท่องเที่ยวได้ให้การสนับสนุนกับการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ประเทศไทยได้รับเม็ดเงินจากการถ่ายทำภาพยนตร์ถึงเกือบ 10,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
รวมทั้งร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมในการส่งเสริมภาพยนตร์ไทยและใช้ Soft Powerจากภาพยนตร์ไทยเพื่อเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการทำงานร่วมกันนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างการจดจำในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ในอนาคต กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ตั้งเป้าหมายที่จะนำประเทศไทยกลับสู่ตัวเลขนักท่องเที่ยวและรายได้ที่เคยทำได้ก่อนเกิดโควิด-19 โดยคาดหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะถึง 40 ล้านคนและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ถึง 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2568 อย่างไรก็ตาม ความท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ก็มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวในภูมิภาคดังกล่าว ทำให้กระทรวงฯ ต้องปรับเป้าหมายการเติบโตลงมาบ้าง
การสร้างสมดุลระหว่างการเพิ่มจำนวนการท่องเที่ยวและการรักษารายได้จากการท่องเที่ยวให้อยู่ได้นานขึ้นจึงเป็นความสำคัญหลัก โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยมีการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและสามารถสร้างรายได้ที่สูงขึ้นในระยะยาว และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้นจากนักท่องเที่ยว การพัฒนาทั้งในด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการอนุรักษ์ทรัพยากรจะเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในอนาคต
มวยไทยในปัจจุบัน ไม่เพียงแค่ศิลปะการต่อสู้ แต่มวยไทยเป็นศิลปะที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยอย่างชัดเจน และมีเสน่ห์หลากหลายที่สามารถนำไปสู่การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ
ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว บัญชาเมฆ) เผยว่า มวยไทยในปัจจุบันได้เดินทางไปทั่วโลก และได้รับความนิยมมากจากเยาวชนต่างประเทศที่หันมาฝึกฝนมวยไทย ไม่เพียงแต่ใช้มวยไทยในเชิงกีฬา แต่ยังนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เช่น แฟชั่น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับมวยไทย การได้ไปเป็นวิทยากรและการสัมมนาต่างๆ ในต่างประเทศช่วยขยายฐานคนรู้จักมวยไทย และสามารถนำมาใช้ในการสร้างรายได้ให้กับมูลนิธิและกิจกรรมต่างๆ
การจัดงานมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนออุปกรณ์มวยไทย เสื้อผ้าแฟชั่นที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย รวมถึงการให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับการเรียนรู้มวยไทยผ่านคอร์สฝึกฝนที่เปิดให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่สามารถเสริมสร้างสมรรถภาพให้กับเยาวชนที่สนใจ
มวยไทยไม่ใช่แค่กีฬา แต่ยังเป็นวิธีการเสริมสร้างสุขภาพและความแข็งแรงทางร่างกาย ซึ่งได้รับความสนใจจากเยาวชนในปัจจุบัน การฝึกฝนมวยไทยไม่เพียงแต่สร้างร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ยังสร้างทักษะที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ การเชิญชวนเยาวชนและชาวต่างชาติให้เข้ามาสนใจฝึกมวยไทย โดยมั่นใจว่าไม่เพียงแต่จะได้ความสนุกจากการฝึกฝน แต่ยังได้พัฒนาตัวเองในหลายๆ ด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,116 วันที่ 24 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568