เตือนภัย! มิจฉาชีพ ที่มากับโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568”

โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ปี 2568 นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศด้วยการได้รับส่วนลดจากรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับสิทธิ์ในการใช้จ่ายส่วนลดได้ตามข้อกำหนดของโครงการ

ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่มักจะใช้ช่วงเวลานี้ในการหลอกลวงผู้บริโภคด้วยวิธีต่างๆ เช่น การส่งลิงก์ปลอมหรือข้อความแอบอ้างจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งผู้ที่ได้รับข้อความแนะนำให้ลงทะเบียนจากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ หรือได้รับลิงก์ปลอมไม่ควรกดเข้าไปหรือให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ โดยเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่อาจเข้ามาหลอกลวง 

สำหรับการจองที่พักที่เข้าร่วมโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ผู้บริโภคต้องระมัดระวังเพจปลอมที่แอบอ้างเป็นที่พักชื่อดัง พร้อมการเสนอโปรโมชันที่ดูน่าสนใจเกินจริง ซึ่งอาจเป็นกลวิธีหลอกลวงของมิจฉาชีพในการดึงข้อมูลส่วนตัวหรือเรียกเก็บเงินจากผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรม

ข้อสังเกตก่อนจองที่พัก

1. ตรวจสอบ “ข้อมูลเพจ” หรือ “ความโปร่งใสของเพจ”: เข้าไปที่ส่วน “เกี่ยวกับ” (About) ของเพจ หากพบประวัติการเปลี่ยนชื่อเพจบ่อยครั้ง หรือมีผู้จัดการเพจอยู่ต่างประเทศ ควรตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นเพจปลอม

2. พิจารณา “จำนวนผู้ติดตาม” และ “รูปแบบการโต้ตอบ”: เพจปลอมมักมีการสร้างยอดผู้ติดตามปลอม หรือมีพฤติกรรมการโต้ตอบที่ไม่เป็นธรรมชาติ เช่น มีการกดแสดงอารมณ์ “โกรธ” จำนวนมากในโพสต์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณผิดปกติ

3. ตรวจสอบ “บัญชีก่อนโอนเงิน”: ก่อนทำการโอนเงินค่าที่พัก ควรตรวจสอบชื่อบัญชีธนาคารให้แน่ใจว่าตรงกับชื่อเจ้าของที่พัก หรือเป็นชื่อของกิจการที่พักนั้น ๆ หากเป็นบัญชีส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับชื่อสถานประกอบการ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และสามารถตรวจสอบบัญชีต้องสงสัยได้ที่เว็บไซต์ blacklistseller.com, fake-check.ncsa.or.th หรือ checkgon.go.th

สำหรับผู้บริโภคเดินทางไปถึงที่พักแล้วพบว่า ห้องพักไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในโฆษณา ไม่สะอาด หรือขาดสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่ตกลงกันไว้ ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้ประกอบการแก้ไขปัญหา

ข้อสังเกตก่อนจองที่พัก

1. ตรวจสอบ “ข้อมูลเพจ” หรือ “ความโปร่งใสของเพจ”: เข้าไปที่ส่วน “เกี่ยวกับ” (About) ของเพจ หากพบประวัติการเปลี่ยนชื่อเพจบ่อยครั้ง หรือมีผู้จัดการเพจอยู่ต่างประเทศ ควรตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นเพจปลอม

2. พิจารณา “จำนวนผู้ติดตาม” และ “รูปแบบการโต้ตอบ”: เพจปลอมมักมีการสร้างยอดผู้ติดตามปลอม หรือมีพฤติกรรมการโต้ตอบที่ไม่เป็นธรรมชาติ เช่น มีการกดแสดงอารมณ์ “โกรธ” จำนวนมากในโพสต์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณผิดปกติ

3. ตรวจสอบ “บัญชีก่อนโอนเงิน”: ก่อนทำการโอนเงินค่าที่พัก ควรตรวจสอบชื่อบัญชีธนาคารให้แน่ใจว่าตรงกับชื่อเจ้าของที่พัก หรือเป็นชื่อของกิจการที่พักนั้น ๆ หากเป็นบัญชีส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับชื่อสถานประกอบการ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และสามารถตรวจสอบบัญชีต้องสงสัยได้ที่เว็บไซต์ blacklistseller.com, fake-check.ncsa.or.th หรือ checkgon.go.th

สำหรับผู้บริโภคเดินทางไปถึงที่พักแล้วพบว่า ห้องพักไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในโฆษณา ไม่สะอาด หรือขาดสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่ตกลงกันไว้ ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้ประกอบการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ หากเจรจาแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไข หรือไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาตามสมควร ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะ บอกเลิกสัญญาและขอเงินคืนทั้งหมดการแจ้งบอกเลิกควรทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มีหลักฐานการเรียกร้องสิทธิที่ชัดเจน

ในกรณีที่แจ้งที่พักไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินคืนหรือไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 หรือร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ www.ocpb.go.th หรือสามารถร้องเรียนมาที่สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502