วิสัยทัศน์นายก TICA คนใหม่ ดันไทยหมุดหมาย “ไมซ์”นานาชาติ ชู 4 กลยุทธบูสต์ตลาด

21 มิ.ย. 2568 | 03:02 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มิ.ย. 2568 | 03:02 น.

ไมซ์ จัดว่าเป็นกลุ่มตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ Thailand Incentive and Convention Association (TICA) ในฐานะองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2527 จากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นหนึ่งในองค์กรสำคัญที่มีส่วนขับเคลื่อนธุรกิจนี้ให้เติบโต ทิศทางของ TICA ภายใต้นายกสมาคมคนใหม่ จะเป็นเช่นไร “ประชุม ตันติประเสริฐสุข” ได้ฉายวิสัยทัศน์ที่จะเกิดขึ้น

นายกใหม่ TICA ชู 4 กลยุทธ ดันไทย หมุดหมาย ไมซ์ นานาชาติ

นางสาวประชุม ตันติประเสริฐสุข นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA กล่าวว่า ปัจจุบัน TICA มีสมาชิก 520 ราย โดยภาคเอกชน ประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ต บริษัทจัดการเดินทางและท่องเที่ยว (DMC) และผู้ประกอบการนำเที่ยว บริษัทรับจัดงานประชุมและนิทรรศการ บริษัทจัดการงานอีเวนต์ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านิทรรศการ สถานที่ท่องเที่ยว บริษัทโฆษณา มหาวิทยาลัย ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม MICE

ประชุม ตันติประเสริฐสุข

ทั้ง TICA ยังทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ มาตั้งแต่การก่อตั้งทีเส็บ ในฐานะหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบในอุตสาหกรรมนี้โดยตรง

เป้าหมายการขับเคลื่อนสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA ภายใต้วาระปี 2568-2569 เรามองว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทย เป็นหมุดหมายด้าน “ไมซ์” ระดับนานาชาติ โดยผลักดันให้ประเทศไทย เป็นสถานที่จัดประชุมระดับนานาชาติ ทั้งด้านคอนเฟอร์เรนซ์ และ เอ็กซิบิชั่น โดยจะดำเนินการใน 4 กลยุทธ ที่เราใช้คำว่า “TICA” ซึ่งจะเป็น 4 เสาหลักของสมาคม ได้แก่

1. Talent Development คือ การพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ เพราะในความเป็นจริงแล้วสิ่งสำคัญใน “อุตสาหกรรมไมซ์” (MICE: การจัดประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของมนุษย์เป็นหลัก ดังนั้นการเสริมทักษะและการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพสูงสุด จึงมีบทบาทสำคัญแก่ผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อช่วยยกระดับการให้บริการให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงส่งเสริมนวัตกรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก เราจึงต้องอัพสกิล และรีสกิล คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้

สมาคมฯ จะยังคงมุ่งเน้น และดำเนินการจัดอบรม รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีภาวะความเป็นผู้นำ โดยสมาคมร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ และสร้างบุคลากรให้มีศักยภาพในอุตสาหกรรมไมซ์ต่อไป

2. Innovation คือ นวัตกรรม การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในขณะที่โลกเรามีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการก้าวไปพร้อมๆ กับ AI จนทำให้โลกมีการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งหนึ่งที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของไทยคือ “การบริการแบบไทยๆ” ที่ยังคงไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้ ดังนั้นเราต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมไม่ใช่เพียงเพื่อให้ทันโลก แต่ยังคงเป็นผู้นำด้านบริการ และการสร้างโปรแกรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยสร้างแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น ที่สามารถมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำที่ดี

วิสัยทัศน์นายก TICA คนใหม่ ดันไทยหมุดหมาย “ไมซ์”นานาชาติ ชู 4 กลยุทธบูสต์ตลาด

3. Collaboration & Contribution ความร่วมมือและการมีส่วนร่วม ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยการแบ่งปันทรัพยากร ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญชำนาญการ ที่จะช่วย “ยกระดับประเทศไทย” ให้มีชื่อเสียงใน “เวทีโลก” ในฐานะประเทศที่รองรับการจัดงานประชุมระดับชั้นนำ

นอกจากนี้ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่ทางเลือกของผู้จัดงานอีกต่อไป แต่ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องผนวกรวมเข้าไปกับการจัดงานและการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่มลูกค้า และความร่วมมือ ร่วมใจ ในความมุ่งมั่นร่วมกัน ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ยังถือเป็นการสร้างมรดกที่ยั่งยืนให้กับชุมชน และประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ ให้เกิดความสำเร็จในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์

4. Agility คือ การปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับตัว การยืดหยุ่น และการเตรียมความพร้อมกับ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อยู่เสมอ ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติ ที่ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ จะต้องรับมือ และมีการเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถตอบสนองโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน

เจอผลกระทบ 3 เด้งฉุดนักเดินทางไมซ์หด เร่งบูสต์ตลาด

สำหรับสถานการณ์การจัดประชุมนานาชาติในไทย ปัจจุบันเจอ 3 ผลกระทบ จากการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทยเมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมา สหรัฐเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยลดลง กระทบจำนวนต่างประเทศเข้ามาจัดประชุมในไทยลดลง การลดเวลาพำนักในไทย และลดการใช้จ่ายกินช้อปเที่ยว

ส่งผลให้ล่าสุดทีเส็บ ได้ปรับลดเป้าหมายนักเดินทางกลุ่มไมซ์ (MICE : Meetings, Incentives, Conventions and Exhibitions) ในปี 2568 นี้ จากนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศลดลง เหลือราว 5.9 แสนคน จากปีก่อนที่มีจำนวน 1.1 ล้านคน และมีรายได้ 3.3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ที่ 6.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ อยู่ที่ 12.6 ล้านคน รายได้ 4.2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ที่ 24 ล้านคน รายได้ 7.8 หมื่นล้านบาท

สถิตินักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์

ทั้งนี้นักท่องเที่ยว MICE 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน อินเดีย มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง เยอรมนี สหรัฐ และญี่ปุ่น โดยช่วงไตรมาส 2 และ 3 ยังอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น จึงต้องเร่งการหาตลาดกลุ่มใหม่ๆ ในประเทศ และตลาดไกล อย่างกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุดีอาระเบีย   

ส่วนปัจจัยสถานการณ์การเมืองในประเทศ ยังไม่มีผลต่อการจองจัดงานต่างๆ เมื่อเทียบกับการเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ กระทบต่อความรู้สึกและภาพลักษณ์ อย่างเหตุแผ่นดินไหว จะเป็นเรื่องที่ส่งผลโดยตรงมากกว่า เพราะประเทศไทยมีองค์ประกอบที่ยังเหมาะต่อการจัดงาน เมืองไทยยังมีเสน่ห์ และอุตสาหกรรมต่างๆ ยังจำเป็นต้องจัดงาน เช่น อาหาร ยา เฮลธ์แคร์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไทยก็ประมาทไม่ได้ เพราะการแข่งขันจัดงานระดับโลกแข่งขันสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไทยยังต้องรับมือกับการแข่งกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม

TICA เตรียมนำเสนอภาครัฐ 7 ข้อ ขับเคลื่อนตลาดไมซ์

ดังนั้น TICA จึงเตรียมนำเสนอภาครัฐ 7 ข้อ เพื่อขับเคลื่อนตลาดไมซ์ ได้แก่

  1. ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ มุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ชุมชน และวัฒนธรรมท้องถิ่น
  2. ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อ พัฒนาเส้นทางคมนาคม เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
  3. เปลี่ยนแปลงลักษณะของนักท่องเที่ยว (จากการพักผ่อนสู่การท่องเที่ยวที่มีเป้าหมาย) รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การประชุม การเรียนรู้ หรือจิตอาสา
  4. ฝึกอบรมและยกระดับทักษะแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พัฒนาทักษะบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเทคโนโลยีใหม่
  5. ใช้เทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อยกระดับประสบการณ์นักท่องเที่ยว
  6. ทบทวนกฎระเบียบและนโยบายใหม่ ปรับปรุงกฎหมายและนโยบายให้ทันสมัยและเอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
  7. ต่อต้านการหลอกลวงและคุ้มครองนักท่องเที่ยว สร้างระบบป้องกันการโกงและดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งหมดล้วนเป็นวิสัยทัศน์ของนายก TICA คนใหม่

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,107 วันที่ 22 - 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568