นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ประเด็นคลิปเสียงการเจรจาหลังบ้านของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา ที่เผยแพร่เสียงสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เป็นเรื่องร้อนที่สุดของ รัฐบาลชุดนี้
ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้น การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและ ความสัมพันธ์ระหว่างไทย กัมพูชา มีผลกระทบในการหดตัวของความร่วมมือในทุกมิติโดยตรง
ส่วนในมุมของการท่องเที่ยวจากภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกที่เดินทางมาไทย อาจมีผลต่อนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ไม่ได้รับข่าวสารที่แม่นยำ ถูกต้อง ภาครัฐต้องเร่งสื่อสารให้ถูกต้องชัดเจน
ในส่วนของ การประท้วง หรือ ความขัดแย้งทางการเมือง ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว เพราะในอดีตประเทศไทย ผ่านมาพอสมควร ความเชื่อมั่นจากนี้ ต้องดูการตัดสินใจทางการเมือง ที่จะเกิดขึ้นของฝ่ายการเมือง จะเป็นตัวตัดสินใจ อนาคตของผลกระทบภาพรวมของประเทศ
อีกทั้งโดยส่วนตัวเชื่อว่ามีโอกาสยุบสภา มากที่สุด วันนี้คงมีพรรคร่วมรัฐบาล ประกาศถอนตัวเพิ่มขึ้น โดยต้องจับตาการประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วง 17:00 น.ของวันนี้ และ พรรคอื่น ๆ คงดูกระแสประชาชน ในวันนี้ และ เป็นการบีบให้ พรรคร่วมรัฐบาล ต้องถอยหลัง หรือ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จะประกาศลาออก เพื่อพยุงพรรคร่วม และให้พรรคเพื่อไทย ยังมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ประคองต่อไปเพื่อรอโอกาสเลือกตั้งอีกครั้ง
แต่ผมคิดว่าโอกาสน้อยมากที่นายกรัฐมนตรีจะลาออก การเป็นผู้นำประเทศ ที่มีแต่ความกล้า ที่จะรับตำแหน่งในขณะที่ทักษะไม่เพียงพอ กับการบริหารประเทศที่ต้องดูแลปัญหาร้อยแปด ในทุกวินาทีที่ตื่นมา และ เผชิญแรงกดดันอย่างหนัก กับสถานการณ์รอบด้าน แต่ขาดพัฒนาการในการเรียนรู้ ปรับตัว ทำให้ขาดความศรัทธามากขึ้นเรื่อย ๆ
จากการเป็นผู้นำมือใหม่ จนเกิดปัญหาใหญ่มาก การใช้เทคนิคการเจรจา คิดแบบเด็กอ้อนผู้ใหญ่ เพื่อเจรจา ปัญหาความขัดแย้งระดับประเทศ เป็นเรื่องที่ ประชาชนทั่วไป ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และ ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ คงยากที่จะยอมรับเหตุผลของการพูดเอาใจคู่กรณี ด้วยการให้ร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาตนเอง เป็นเรื่องที่ ยากที่จะยอมรับกันในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และ การพูดคำนี้ เป็นการแสดงถึง จิตใต้สำนึก คนถูกกล่าวถึงเป็นฝั่งตรงข้ามมาตลอด
ดังนั้นการยอมรับ และจะให้ผู้นำพาประเทศต่อไป ของหน่วยงาน และ ประชาชนต่าง ๆ คงยากมากๆ สถานการณ์ประเทศ เข้าสู่ภาวะ ปัญหารอบทิศ ประชาชนกำลังเดือดร้อน เรากำลังต้องการผู้นำ ที่เข้มแข็ง ซื่อสัตย์ เฉลียวฉลาด มีวิสัยทัศน์ มานำพาประเทศออกจากภาวะวิกฤต
นอกจากนี้เช้านี้เมื่อดูจากข่าวต่างประเทศ ที่วิเคราะห์สถานการณ์ ไทย - กัมพูชา เกิดจาก ฝรั่งเศส ถึง ระเบิดเวลาเกี่ยวกับ เขต พรหมแดนระหว่างประเทศไว้ ในช่วงปี 1960 ถึงเป็นประเด็นสำคัญ ของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน ของเหล่านักล่าอาณานิคมตะวันตกทำไว้ในทุกภูมิภาค ทำให้มีความคลุมเครือ และ เกิดข้อพิพาทกันมีการเทียบแสนยานุภาพ ไทย - กัมพูชา ไทยเหนือกว่ามากมายในทุกทุกมิติ และ ผู้เชี่ยวชาญก็คิดว่าไม่น่าเกิดสงครามใหญ่ใดๆ และไม่มีความจำเป็น สำหรับไทย - กัมพูชา ซึ่งสามารถเจรจากันได้
โดยเฉพาะกัมพูชา ไม่มีศักยภาพใด ๆ จะสู้กับประเทศไทยได้เลย และ ปมข้อพิพาทนี้ ทำให้เกิดการต่อสู้กันมาหลายครั้งและมีผู้เสียชีวิตมากว่า 60 รายแล้ว ตั้งแต่อดีต และ ชาวบ้านเดือดร้อนจากการสู้รบ มาตลอดที่การปะทะกัน