ถอดรหัส ทายาทเจ้าสัวเจริญ ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ Jurassic World ในไทย

08 พ.ค. 2568 | 06:54 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2568 | 14:21 น.

“Jurassic World The Experience Bangkok” นิทรรศการไดโนเสาร์ ครั้งแรกในอาเซียน ประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบอิมเมอร์ซีฟ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อีกหนึ่งโปรเจ็กต์ไฮไลท์ของ “วัลลภา ไตรโสรัส” ทายาทเจ้าสัวเจริญ หมุดหมายใหม่ในการยกระดับการท่องเที่ยวไทย ในกลางเดือนกรกฏาคมนี้

นับถอยหลังการเปิดให้บริการ “จูราสสิค เวิล์ด เอเชียทีค " หรือ "Jurassic World The Experience Bangkokนิทรรศการไดโนเสาร์ ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบอิมเมอร์ซีฟ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อีกหนึ่งโปรเจ็กต์ไฮไลท์ของ “วัลลภา ไตรโสรัสทายาทเจ้าสัวเจริญ หมุดหมายใหม่ในการยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่  เวิล์ดคลาสเดสติเนชั่น ภายใต้การลงทุน 1,400 ล้านบาท ที่จะเปิดให้บริการในกลางเดือนกรกฏาคมนี้

Jurassic World The Experience Bangkok เอเชียทีค

“Jurassic World : The Experience Bangkok” ณ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” ไม่ใช่สวนสนุก แต่เป็นนิทรรศการสุดล้ำ ซึ่งนำภาพยนตร์ระดับ Box Office ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 30 ปี นับจากภาพยนตร์ Jurassic Park ได้ออกฉายครั้งแรกในปี 2536 จนถึง Jurassic World ภาคล่าสุด Jurassic world Rebirth มาสร้างให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนไปสู่โลกของไดโนเสาร์เสมือนจริง ผ่านเทคโนโลยีอิมเมอร์ชีฟ

Jurassic World The Experience ที่ผ่านมา มีการจัดนิทรรศการมาแล้วในหลายประเทศ เช่น เซี้ยงไฮ้ แต่สำหรับการปักธงประสบการณ์นี้ในไทย เกิดจากบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ได้ร่วมมือกับ NEON และ Universal Live Events & Location Based Entertainment ในการนำพลังแบรนด์ดิ้งของไดโนเสาร์ ในภาพยนตร์โลกนี้ มาสร้างประสบการณ์ใหม่ในไทย และยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่เวิล์ดคลาส เดสติเนชั่น

“Jurassic World : The Experience Bangkok” มีขนาดพื้นที่การจัดนิทรรศการ ร่วม 1 หมื่นตารางเมตร ภายในพื้นที่ 2 ชั้น ใหญ่กว่าที่เคยจัดในเซี้ยงไฮ้ถึง 5 เท่า และจะเปิดให้บริการระยะยาว

ถอดรหัส ทายาทเจ้าสัวเจริญ ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ Jurassic World ในไทย ถอดรหัส ทายาทเจ้าสัวเจริญ ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ Jurassic World ในไทย

ขณะนี้ AWC ส่งมอบพื้นที่ให้พาร์ทเนอร์สิงคโปร์ ที่ได้ลิขสิทธิ์จาก Jurassic World : The Experience ดำเนินการพัฒนาแล้ว ซึ่งในแต่ละโซน จะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในโลกของไดโนเสาร์ การเข้าชมจะมีการกำหนดเป็นรอบๆ ใช้เวลาเดินชมในโครงการนี้ราว 1-1.30 ชั่วโมง เน้นลูกค้านักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวคนไทยและชาวต่างชาติ

จูราสสิค เวิล์ด เอเชียทีค

ไฮไลท์ของนิทรรศการนี้ในไทย มี 6 จุดเด่น ทำให้นิทรรศการนี้แตกต่างจากที่เคยจัดแสดงมาก่อนในประเทศอื่นๆ ได้แก่

1. การนำเข้าหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริง ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับที่จัดแสดงในธีมปาร์คทั่วโลก อย่าง จูราสสิค เวิล์ด ที่อยู่ในยูนิเวอร์แซล ของสิงคโปร์ ทั้งในด้านขนาด พื้นผิว (Texture) และการเคลื่อนไหว (Movement)

2. จะมีไดโนเสาร์จากทุกภาคของภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ Jurassic World ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 30 ปี มาจัดแสดง

3. การใช้เทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟ (Immersive Technology) ที่ล้ำสมัยที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริง ให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของจูราสสิค เวิลด์ ด้วยการจำลองฉากสำคัญจากภาพยนตร์ ทั้งแสง สี เสียง และสัมผัสที่สมจริง

4.มีพื้นที่พิเศษสำหรับแฟนคลับ จูราสสิค เวิลด์ (Jurassic World Community) ที่สามารถทักทายและสัมผัสกับน้องๆ เบบี้ไดโนเสาร์ได้อย่างใกล้ชิด สร้างประสบการณ์แบบ Interactive ที่ไม่เหมือนใคร

Jurassic World

5.มีโซนอาหารและเครื่องดื่ม เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้อยู่ในธีมปาร์ค

6. มีการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ต้องการของนักสะสมและแฟนพันธุ์แท้ของแฟรนไชส์จูราสสิค เวิลด์ทั่วโลก

การเปิดตัว “Jurassic World: The Experience Bangkok” มีความพิเศษ เนื่องจากมีกำหนดการที่สอดรับกับการเข้าฉายของภาพยนตร์ภาคใหม่ล่าสุด “Jurassic World Rebirth” ที่จะเข้าฉายใน วันที่ 2 กรกฏาคมนี้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีความพิเศษสำหรับประเทศไทย เนื่องจากมีการเลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในโลเคชั่นหลักในการถ่ายทำ ซึ่งในช่วงที่มีการถ่ายทำได้สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง

จูราสสิค เวิล์ด

เพราะมีนักแสดงชื่อดังระดับฮอลลีวูดอย่าง สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน เดินทางมาถ่ายทำในไทย และยังมีแผนที่จะเดินทางมาร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ในไทยด้วย การเปิดให้บริการของ “จูราสสิค เวิล์ด เอเชียทีค ” ในช่วงกลางเดือนก.ค.นี้ จึงเป็นไทม์มิ่งที่ดี เพราะนอกจากดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ยังได้กลุ่มคนที่เดินทางมาตามรอยภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในไทย และสนใจเข้ามาชมนิทรรศการนี้ด้วย

วัลลภา ไตรโสรัส

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ AWC ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก โดยคำนึงถึงการผสมผสานแนวคิดด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนเข้ากับประสบการณ์ด้านความบันเทิงอย่างลงตัว

โครงการนี้ ยังถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ให้เป็นศูนย์กลางที่ผสานทั้งธุรกิจการค้าปลีก ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รวมถึงความหลากหลายด้านอาหารและความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว

เปิดตัวนิทรรศการ “จูราสสิค เวิล์ด เอเชียทีค" จึงนับว่าเป็นแม็กเน็ตใหม่ของการท่องเที่ยวไทยในระดับโลกที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแบบ Man Made โดยเป็นการนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience Tourism) กำลังเป็นเทรนด์สำคัญของการท่องเที่ยวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่แสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่มากกว่าการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม

การที่ประเทศไทยมีนิทรรศการระดับโลกเช่นนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ที่ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,092 วันที่ 1 - 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2568