ไมเนอร์ตั้งเป้าเปิดโรงแรมใหม่ 500 แห่งทั่วโลกใน 3 ปี ดันห้องพักทะลุแสนห้อง

08 ก.พ. 2567 | 13:09 น.

ไมเนอร์ โฮเทลส์ ตั้งเป้าเปิดโรงแรมมากกว่า 500 แห่งทั่วโลก ร้านอาหาร 1พันสาขา ภายใน 3 ปี ขยายพอร์ตโฟลิโอภายใต้กลยุทธ์การขยายธุรกิจไปทั่วโลก ดันจำนวนห้องพักในเครือเพิ่มขึ้นมากกว่าแสนห้อง

ไมเนอร์ โฮเทลส์ ตั้งเป้าเปิดโรงแรมมากกว่า 200 แห่งทั่วโลกภายใน 3 ปี ขยายพอร์ตโฟลิโอภายใต้กลยุทธ์การขยายธุรกิจไปทั่วโลก ดันจำนวนห้องพักในเครือเพิ่มขึ้นมากกว่าแสนห้อง

ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) เจ้าของและผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ประกาศตั้งเป้าเปิดโรงแรมใหม่กว่า 200-500 แห่งทั่วโลกและร้านอาหาร 1,000 สาขาภายในระยะเวลา 3 ปี โดยมียอดรวมจำนวนโรงแรมอยู่ที่ 780 แห่ง และ ร้านอาหารอยู่ที่ 3,700 สาขาทั้งยังได้เผยรายละเอียดกลยุทธ์ธุรกิจแบบยืดหยุ่นสำหรับปี พ.ศ. 2567 และในอนาคต

ไมเนอร์

โดยเป้าหมายการเปิดให้บริการโรมแรมใหม่นี้จะทำให้จำนวนพอร์ตโฟลิโอของโรงแรมในเครือเพิ่มขึ้นเกือบ 40% จากจำนวนโรงแรมและรีสอร์ทในปัจจุบันซึ่งมีอยู่กว่า 540 แห่ง ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนห้องพักในเครือเพิ่มขึ้นมากกว่า 30,000 ห้อง จากจำนวนห้องพักเกือบ 80,000 ห้องที่มีอยู่ในปัจจุบัน

การเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วของไมเนอร์ในระดับสากล เป็นผลมาจากผลประกอบการที่สูงเป็นประวัติการณ์ในปี พ.ศ. 2566 และยังจะถูกขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบหลากหลายแนวทาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการขยายแบรนด์ต่าง ๆ ในพอร์ตโฟลิโอขององค์กร และยกเครื่องกลยุทธ์ทางด้านดิจิทัล ควบคู่ไปกับการปรับสัดส่วนโมเดลธุรกิจในรูปแบบการบริหารและรูปแบบแฟรนไชส์ให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น

ภายใต้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจแบบ “Asset Right” ทำให้ไมเนอร์ โฮเทลส์ เป็นเจ้าของหรือถือสิทธิ์สัญญาเช่าเกือบ 70% ของโรงแรม 540 แห่งทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวคาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 50% จากการปรับสมดุลของสัดส่วนรูปแบบธุรกิจแบบรับบริหารและแบบแฟรนไชส์ 

ไมเนอร์ตั้งเป้าเปิดโรงแรมใหม่ 500 แห่งทั่วโลกใน 3 ปี ดันห้องพักทะลุแสนห้อง

โดยไมเนอร์ตั้งเป้าที่จะรับบริหารโรงแรมมากกว่า 150 แห่งในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งของการดำเนินธุรกิจในรูปแบบผสมเติบโตจาก 19% ในปี พ.ศ. 2566 เป็น 38% ในปี พ.ศ. 2569 นอกจากนี้   ไมเนอร์ได้ตั้งเป้าการทำสัญญาแบบแฟรนไชส์ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตด้านการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอโรงแรมอย่างต่อเนื่อง

มร. ดิลิป ราชากาเรีย (Dillip Rajakarier) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า ปี 2566 ถือเป็นปีที่เราได้สร้างสถิติเป็นประวัติการณ์ โดยมีทั้งตัวเลขทางการเงินและการขยายธุรกิจเป็นข้อพิสูจน์  และเมื่อมองในอนาคต เรามุ่งมั่นที่จะเปิดโรงแรมเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งขยายแบรนด์ต่าง ๆ ของเราไปทั้งในพื้นที่ที่มีโรงแรมในเครือเปิดให้บริการอยู่แล้ว รวมถึงในภูมิภาคใหม่ ๆ ทั่วโลก อีกด้วย

ดิลิป ราชากาเรีย

นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนสัดส่วนตามภูมิศาสตร์ ด้วยการกระจายโรงแรมและรีสอร์ทไปทั่วโลกให้ทั่วถึง โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของโรงแรมกว่า 200 แห่งที่ตั้งเป้าเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ. 2569 จะอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ในขณะที่โรงแรมเปิดใหม่ในยุโรปและตะวันออกกลางจะมีจำนวนมากกว่า 50 แห่งในแต่ละภูมิภาค 

ทั้งยังจะเปิดโรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ของเครือในภูมิภาคอื่น ๆ อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ทวีปอเมริกา และทวีปแอฟริกา ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้การกระจายสัดส่วนโรงแรมทั่วโลกสมดุลยิ่งขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนห้องพักในเอเชียต่อสัดส่วนห้องพักทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 12% เป็น 23% และจาก 9% เป็น 16% สำหรับภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาภายในปี พ.ศ. 2569 การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในภูมิภาคอื่นคาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนห้องพักในยุโรปลดลงเหลือ 45% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 60%

อนันตรา (Anantara) อวานี (Avani) โอ๊คส์ (Oaks) ทิโวลี (Tivoli)  และเอ็นเอช โฮเทลส์ (NH Hotels) จะเป็นแบรนด์โรงแรมหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าอวานีเพียงแบรนด์เดียวจะสามารถเพิ่มสัดส่วนการเติบโตได้มากกว่า 2 เท่า ซึ่งจะคิดเป็นจำนวนโรงแรมและรีสอร์ทเกือบ 100 แห่ง ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคาดว่าจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ๆ ในปี พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เพื่อเติมเต็มความต้องการของนักเดินทาง รวมทั้งให้ทางเลือกที่ตอบโจทย์เจ้าของโรงแรมและเสริมสร้างตำแหน่งทางการแข่งขันให้กับบริษัทในขณะเดียวกัน

ม.ร. เอียน ดิ ทูลลิโอ (Ian Di Tullio) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า เรามุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์ต่าง ๆ ของเราให้เติบโต เพื่อให้มีส่วนผสมที่ลงตัวของแบรนด์ที่เข้าถึงง่ายและแบรนด์ที่มีความหรูหราในที่ตั้งอันหลากหลาย นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าในการปรับลดกลยุทธ์ ’Asset Right’ โดยในขณะที่เราจะยังคงรักษาสิทธิ์การเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่เป็นเรือธงเอาไว้ 

เอียน ดิ ทูลลิโอ

เราจะเปลี่ยนไปมุ่งเน้นการเพิ่มสัญญารับจ้างบริหารและสัญญาแฟรนไชส์ ซึ่งการเดินหน้าทางกลยุทธ์ในครั้งนี้จะเป็นการขยายธุรกิจของเราให้เติบโตไปทั่วโลกอย่างเป็นธรรมชาติ โดยยังคงรักษาแนวคิดในการขับเคลื่อนธุรกิจบริหารทุกรูปแบบด้วยจิตสำนึกความเป็นเจ้าของ

หลังเปิดให้บริการ อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ รีสอร์ท (Anantara Mina Al Arab Ras Al Khaimah Resort) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แบรนด์โรงแรมหรู อนันตรา โฮเทลส์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Anantara Hotels, Resorts & Spas) ยังเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2567 โดยจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ในยุโรปด้วย โรงแรมอนันตรา พาเลส์ ฮันเซิน เวียนนา (Anantara Palais Hansen Vienna Hotel)

ไมเนอร์ตั้งเป้าเปิดโรงแรมใหม่ 500 แห่งทั่วโลกใน 3 ปี ดันห้องพักทะลุแสนห้อง

ตามด้วยการเปิด อนันตรา ซานโตรินี อาบู ดาบี รีทรีท (Anantara Santorini Abu Dhabi Retreat) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อนันตรา อูบุด บาหลี รีสอร์ท (Anantara Ubud Bali Resort) อินโดนีเซีย และอนันตรา ชัยปุระ รีสอร์ท (Anantara Jaipur Resort) ซึ่งจะเป็นรีสอร์ทภายใต้แบรนด์อนันตราแห่งแรกในประเทศอินเดีย

ในปีพ.ศ. 2567 นี้ ยังจะมีการเปิดโรงแรมภายใต้แบรนด์ อวานี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (Avani Hotels & Resorts) ที่แฟรงก์เฟิร์ต อัมสเตอร์ดัม และเซเชลส์ รวมถึงการเปิดตัวแบรนด์โรงแรมอวานีเป็นครั้งแรกในประเทศจีน

ในส่วนของ เอ็นเอช คอลเลคชั่น โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (NH Collection Hotels & Resorts) ซึ่งจะมีอายุครบรอบ 10 ปีในปี พ.ศ. 2567 นี้ จะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจไปทั่วโลก ทั้งในประเทศไทย กาตาร์ ฟินแลนด์ และโปรตุเกส โดยล่าสุดได้ประกาศเตรียมเปิดโรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น แห่งแรกในกรุงปารีสในปีนี้ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ยังนับเป็นโรงแรมในปารีสแห่งแรกของเครือไมเนอร์ โฮเทลส์ 

ไมเนอร์ตั้งเป้าเปิดโรงแรมใหม่ 500 แห่งทั่วโลกใน 3 ปี ดันห้องพักทะลุแสนห้อง

รวมถึงมีแผนเปิดตัวโรงแรมอีกมากมายในเม็กซิโกและจีน สำหรับ ทิโวลี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (Tivoli Hotels & Resorts) เตรียมขยายการให้บริการในยุโรปและตะวันออกกลาง ในขณะที่ นาว โฮเทลส์ (nhow Hotels) จะเปิดตัว นาว ลิมา (nhow Lima) เป็นครั้งแรกในเปรู ในปี พ.ศ. 2567 ตามด้วย นาว โรม (nhow Rome) ในอิตาลี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เอเลวาน่า คอลเลคชั่น (Elewana Collection) แบรนด์ลอดจ์ แคมป์ และโรงแรมสไตล์บูติก ซึ่งกระจายอยู่ ณ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศเคนยาและแทนซาเนีย ได้ประกาศเปิดตัวแบรนด์บ้านพักสไตล์ซาฟารีลอดจ์แบบอัพสเกล เอ็กซ์พลอเรอร์ บาย เอเลวาน่า (Explorer by Elewana) โดยจะเปิดให้บริการ เซเรนเกตี เอ็กซ์พลอเรอร์ (Serengeti Explorer) ซาฟารีลอดจ์แห่งแรกภายใต้แบรนด์ใหม่ ในเดือนมีนาคมนี้

ท่ามกลางการเติบโตอันรวดเร็ว ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจที่มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงห้องอาหาร และธุรกิจอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากโรงแรม อาทิ โครงการ อนันตรา คาฟิว ริเวอร์ เต็นท์ แคมป์ (Anantara Kafue River Tented Camp) ที่จะนำเสนอประสบการณ์สุดหรูใหม่ ๆ ด้วยที่พักแบบแคมป์ 12 หลัง และ เดอะ เวียทาจ บาย อนันตรา (The Vietage by Anantara) ซึ่งให้บริการตู้โดยสารรถไฟระดับหรูในเวียดนามก็จะเพิ่มเส้นทางใหม่ระหว่างเมือง กวีเญิน-ญาจาง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้อีกด้วย

ในส่วนของ ไมเนอร์ ฟู้ด ยังเสริมความแข็งแกร่งในอาเซียนด้วยการเปิดร้านอาหารแฟรนไชส์ในเวียดนามและสิงคโปร์ภายใต้ ซิซซ์เลอร์, เดอะคอฟฟี่ คลับ และเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยิ่งไปกว่านั้น MINT ได้เข้าซื้อกิจการแดรี่ ควีนเพื่อดำเนินงานในอินโดนีเซีย และเปิดตัว เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, สเวนเซ่นส์ และกาก้า ทั้งนี้แผนทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขยายธุรกิจสู่ตลาดที่มีการเติบโตสูง โดยเฉพาะตลาดภายในกลุ่มอาเซียน