วันนี้ (2 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการปรับปรุงหลักเกณฑ์การตรวจสินค้าเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (Vat refund for Tourists : VRT) เพื่อแก้ปัญหาคิวยาวเวลานักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยหากต้องการขอคืนภาษีแวต ดังนี้ การปรับเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าที่ต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานศุลกากร จากเดิมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป เป็น 20,000 บาทขึ้นไป หรือ ไม่ถึง 20,000บาท ไม่ต้องแสดง
นายชัยกล่าวว่า การปรับเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ต้องไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพกร 9 รายการ ได้แก่ เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา สมาร์ทโฟน แล็ปท็อบหรือแท็บเล็ต กระเป๋า (ไม่รวมกระเป๋าเดินทาง) และเข็มขัด จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นตั้งแต่ 10,000 บาท ไม่ต้องแสดง เปลี่ยนเป็น 40,000 บาทขึ้นไปถึงมาแสดง
นายชัยกล่าวว่า ขณะเดียวกันสินค้าที่จะหิ้วนำขึ้นเครื่องได้ (carry-on) จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นต้องไม่เกิน 50,000 บาท ของใหม่ไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวเวลามาช้อปปิ้งเมืองไทยและขอคืนภาษีแวตก็จะสามารถรับความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อลดปริมาณนักท่องเที่ยวที่ต้องเข้าคิวเพื่อแสดงสินค้าในกระบวนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของนักท่องเที่ยว สนับสนุนบรรยากาศ การท่องเที่ยว และลดความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวที่เข้าคิวเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ
“นายกรัฐมนตรีสั่งการเรื่องสำคัญว่า ให้ขยายผลโครงการนำร่อง one stop service ที่จังหวัดหนองคาย โดยให้กระทรวงการคลัง กรมศุลกากรไปทำแผนในการทำ one stop service ทุกจุดที่จะเป็นด่านการค้าการส่งออก ทำแล้วให้หน่วยงานทุกหน่วยงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกให้ร่วมมือกันและทำแผน one stop service ทั่วทุกจุดในปีนี้”นายชัยกล่าว