KEY
POINTS
เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา 2025 (Pattaya International Fireworks Festival 2025) ซิกเนเจอร์อีเว้นท์ หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองพัทยาที่ส่งสัญญาณการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
ซึ่งปีนี้ “เมืองพัทยา” กำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 28–29 พฤศจิกายน 2568 ณ หาดพัทยากลาง ภายใต้แนวคิด “แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์” (The Light of Eternal Loyalty) เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัยอย่างลึกซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง
พร้อมกันนั้น เมืองพัทยายังได้ปรับรูปแบบการจัดงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยคงไว้ซึ่งบรรยากาศของความเคารพและความสง่างาม แต่ยังคงเอกลักษณ์ของเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาชื่นชมความงดงามริมอ่าวพัทยา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเทศกาลพลุนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาค
“Pattaya Beach Beer” ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาพิเศษนั้น เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทีมงานได้คัดเลือก 6 จุดชมพลุที่วิวสวยที่สุดในพัทยา ที่แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์ต่างกันไป ทั้งสไตล์หรูริมทะเล มุมสงบอบอุ่น หรือบรรยากาศแฮงก์เอาต์สุดชิล ที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเคล้าเครื่องดื่มสุดสดชื่นของค่ำคืนที่แสนพิเศษ
1. Romsai & Café de La Plage– มุมลับริมทะเลของสายคอนเทนต์
สองคาเฟ่ริมทะเลที่อาจดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของแสงแดดและสายลม “Romsai Café” และ “Café la Plage” เปิดมุมชมพลุที่เงียบสงบ ไม่มีจุดไหนใกล้จุดยิงพลุมากไปกว่านี้แล้ว เห็นพลุชัดสุด สวยที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเก็บช่วงเวลาสวยงามผ่านภาพถ่าย หรือเพียงแค่นั่งนิ่ง ๆ มองแสงไฟบนฟ้าในคืนที่เปี่ยมด้วยความหมาย
2. Lanpiti – บาร์โทนอบอุ่นกลางใจเมือง
ร้านเล็กที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ละมุน “Lanpiti” โดดเด่นด้วยแสงไฟนวลและเสียงเพลงเบา ๆ ที่ขับกล่อมยามค่ำคืน เหมาะกับผู้ที่อยากชมพลุในมุมสงบและใกล้ชิดกับผู้คนท้องถิ่น ร้านนี้มักกลายเป็นมุมโปรดของคนที่ต้องการพักใจในค่ำคืนแห่งการระลึกถึง
3. Avani Pattaya Resort – พลุเหนือคลื่น บรรยากาศเหนือระดับ
รีสอร์ตหรูใจกลางเมืองพัทยาที่ให้ความไพรเวทและสนุกในเวลาเดียวกัน “Avani Pattaya Resort” เปิดพื้นที่รูฟท็อปให้แขกได้ชมพลุอย่างใกล้ชิด เสียงคลื่นซัดเบา ๆ ผสมกับแสงพลุเหนือท้องฟ้า กลายเป็นภาพงดงามที่ชวนให้หยุดนิ่งและซึมซับช่วงเวลาแห่งความภักดีนี้อย่างสงบ
4. King Seafood – ดินเนอร์ริมทะเลกับแสงพลุสุดอลังการ
ร้านอาหารทะเลชื่อดังที่เปิดรับวิวอ่าวพัทยาแบบไม่มีอะไรมาบดบัง “King Seafood” คือจุดชมพลุที่ทุกปีมักเต็มไปด้วยผู้คนที่อยากนั่งทานมื้อค่ำท่ามกลางเสียงคลื่นและแสงพลุที่ส่องสะท้อนผืนน้ำ บรรยากาศอบอุ่นแต่เรียบง่าย สะท้อนเสน่ห์ของเมืองพัทยาอย่างลงตัว
5. Woodball – จุดแฮงก์เอาต์ของคนรุ่นใหม่
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากชมพลุในบรรยากาศสนุกแต่ไม่เกินเลย “Woodball” คือจุดรวมของรอยยิ้มและมิตรภาพ ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบา ๆ และแสงไฟบนฟ้า ร้านนี้ยังคงสะท้อนความอบอุ่นแบบพัทยา ที่ผสมความมีชีวิตชีวากับความเคารพในช่วงเวลาอันทรงคุณค่าได้อย่างลงตัว
6. Cape Dara Resort – พลุมุมสูง เห็นวิวทั้งอ่าวพัทยา
“Cape Dara Resort” คือหนึ่งในจุดชมพลุสุดโรแมนติกที่สุดในพัทยา เปลี่ยนค่ำคืนธรรมดาให้เป็นค่ำคืนสุดพิเศษไม่รู้ลืม ทำให้ผู้ชมได้เห็นพลุสว่างเต็มขอบฟ้า เหมาะกับผู้ที่ต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของงานในบรรยากาศสงบและร่มรื่น
เทศกาลพลุปีนี้ จึงไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลองของแสงสีบนท้องฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองของ “รสนิยม” ที่รวมความสุขของการใช้ชีวิตริมทะเลเข้ากับรสชาติที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมเอกลักษณ์
สุดสัปดาห์นี้…ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งชมพลุที่มุมไหนของพัทยาเพียงยกแก้วขึ้นท่ามกลางเสียงคลื่นและสีสันของพลุบนฟ้าก็จะเข้าใจว่า “Taste the beach life”