KEY
POINTS
ดร. ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า หอแว่นในเครือบริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด เดินหน้าตามแผนธุรกิจเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยไม่มีการชะลอการลงทุนจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ยืนยันแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 แห่งในปีนี้ พร้อมมองว่าตลาดแว่นตายังมีศักยภาพการเติบโตสูง จากเทรนด์สังคมผู้สูงอายุและพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่เผชิญปัญหาสายตาจากการใช้ชีวิต ดันตลาดเลนส์โปรเกรสซีฟและบริการที่เน้นความเชี่ยวชาญเติบโตต่อเนื่อง
พร้อมเปิดเผยว่า แผนธุรกิจและการลงทุนในไตรมาสที่ 4 ของบริษัทฯ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะการขยายสาขาหอแว่น Better Vision เพิ่มเติมอีก 5 แห่งในปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัวไปพร้อมกับการลงทุนของกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้โดยไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจ
หอแว่น Better Vision สาขา ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เปิดสาขาใหม่อย่างเป็นทางการที่ ชั้น 4 ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพฯ ชูมาตรฐานการดูแลสายตาที่เป็นที่ยอมรับกว่า 74 ปี พร้อมยกระดับบริการดูแลสุขภาพตาครบวงจรแบบ One-Stop-Service โดยร่วมมือกับ TRSC International Eye and Vision Center เพื่อส่งมอบประสบการณ์การสายตาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมมากกว่าร้านแว่นทั่วไป ด้วยนักทัศนมาตร (Optometrist) และผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมจาก TRSC ควบคู่เครื่องมือทันสมัยมาตรฐานระดับเดียวกับ TRSC
“ร้านแว่นในตลาดตอนนี้มีรูปแบบที่คล้ายกันไปหมด เราจึงมองหาจุดต่างที่จะตอบโจทย์ลูกค้าให้มากขึ้น จากการวิจัยพบว่าเมื่อคนมีปัญหาสายตา สถานที่แรกที่นึกถึงคือร้านแว่น ไม่ใช่โรงพยาบาล ทำให้เกิดช่องว่างทางการตลาดในการนำเสนอการบริการที่มากกว่าแค่การขายแว่นตา แต่เป็นการดูแลสุขภาพการมองเห็นอย่างรอบด้าน” ดร. ปิยะพงษ์ กล่าว
ดร. ปิยะพงษ์ ประเมินว่าตลาดแว่นตามีศักยภาพในการเติบโตสูงจาก 2 ปัจจัยหลักคือ
ในแง่ของปัจจัยภายนอก แม้เศรษฐกิจในภาพรวมจะอยู่ในภาวะชะลอตัวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศยังซบเซา แต่ธุรกิจของหอแว่นยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากเน้นการให้บริการและนวัตกรรมเลนส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากกว่าการทำสงครามราคา นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเพื่อรับบริการที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มชาวยุโรปที่มองว่าค่าใช้จ่ายในไทยต่ำกว่าประเทศตนเอง
ในด้านการแข่งขัน ดร. ปิยะพงษ์ ยอมรับว่ามีแบรนด์จากญี่ปุ่นและเกาหลีเข้ามาทำตลาดจำนวนมาก แต่หอแว่นยังคงรักษาจุดแข็งด้านการให้บริการตรวจวัดสายตาที่ซับซ้อนและละเอียดกว่าร้านทั่วไป ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการเติบโตที่โดดเด่นของแบรนด์น้องอย่าง "Monde" ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีราคาย่อมเยา เข้าถึงง่าย และมีการขยายสาขาอย่างรวดเร็วถึง 160 แห่ง โดยมีราคาเฉลี่ยเพียง 1,000-4,000 บาท ซึ่งเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับแผนในระยะ 5 ปีข้างหน้า หอแว่นมีเป้าหมายที่จะปรับโฉมและยกระดับประสบการณ์หน้าร้านให้มีความพรีเมียมมากขึ้นผ่านการรีโนเวทสาขาเดิม และเน้นการสื่อสารให้แบรนด์เป็นที่จดจำในฐานะ “Vision Expert Solution” ที่พร้อมเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพตาแบบองค์รวมที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และผลิตภัณฑ์