KEY
POINTS
เซเว่น อีเลฟเว่น ส่งแคมเปญแสตมป์ประจำปี 2568 ภายใต้ชื่อ “เซเว่นฯ แสตมป์ เฮลโล ฮีลใจ เพื่อนใหม่สุดจึ้ง ตัวตึงเอเชีย” โดยดึง 2 คาแรกเตอร์ดัง "น้องเนย" (BUTTERBEAR) และ "พี่คิตตี้" (HELLO KITTY) มาเป็นตัวชูโรง เน้นการสร้างประสบการณ์และความผูกพันที่มากกว่าแค่การสะสมของพรีเมียม แต่เป็นการส่งมอบความสุขและ "ฮีลใจ" ให้กับลูกค้า
แคมเปญมีจุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายของรางวัล Limited Edition ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงและน่าสะสม รวมถึงการสะสมแสตมป์ผ่าน 7App ที่สะดวกและเข้าถึงง่ายนอกจากนี้ ยังมีการต่อยอดแคมเปญด้วยกิจกรรมและเซอร์ไพรส์พิเศษ รวมถึงการจัดทำโครงการ “บุญนิธิแสตมป์เซเว่น” ที่ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแสตมป์เป็นบุญได้
การใช้สแตนดี้คู่หู "น้องเนย" และ "พี่คิตตี้" ในสาขาทั่วประเทศ รวมถึงการตกแต่งร้านแบบพิเศษในบางสาขา เช่น สาขาหลังสวนยูนิโก้ จ.กรุงเทพฯ, สาขาป่าตอง จ.ภูเก็ต และ สาขาพระตำหนัก จ.ชลบุรี เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามามีส่วนร่วม
นายทัพพ์เทพ จีระอดิศวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า “เซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ ทั้งการนำเสนอสินค้าที่สดใหม่ หลากหลาย และมีคุณภาพ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่สร้างความพึงพอใจและความผูกพันอย่างยั่งยืน แคมเปญแสตมป์ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยส่งต่อความสุข ความอบอุ่น และความประทับใจให้กับผู้บริโภคมาโดยตลอด
โดยปีนี้ 2568 นี้ เซเว่น อีเลฟเว่น ยกระดับปรากฏการณ์แสตมป์อีกขั้น ด้วยการจับมือ 2 เพื่อนสุดคิวต์คู่ใหม่ ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข“น้องเนย” (BUTTERBEAR) และ “พี่คิตตี้” (HELLO KITTY) มาร่วมกันสร้างโมเมนต์พิเศษให้คนไทยทั้งประเทศ ผ่านแคมเปญ “เซเว่นฯ แสตมป์ เฮลโล ฮีลใจ เพื่อนใหม่สุดจึ้ง ตัวตึงเอเชีย” เพื่อส่งพลังบวกและเติมเต็มรอยยิ้มให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียงการสะสมแสตมป์ แต่คือการ ‘ฮีลใจ’ และสร้างช่วงเวลาพิเศษที่ทุกคนจะจดจำ”
โลตัส เปิดตัวแคมเปญ "Happy Mall Stamp" (แสตมป์ล่าไอเท็ม) โดยเปิดให้สะสมตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 – 31 ตุลาคม 2568 แคมเปญนี้มุ่งเน้นการกระตุ้นการใช้จ่ายภายใน "มอลล์" ของโลตัส โดยลูกค้าจะได้รับแสตมป์จากการช้อปปิ้งในร้านค้าภายในห้าง
แคมเปญของโลตัสเน้นการใช้แสตมป์เป็นเครื่องมือเพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาใช้บริการในมอลล์อย่างต่อเนื่อง ผ่านการจำกัดการรับแสตมป์สูงสุดต่อวัน เพื่อสร้างความถี่ในการเข้าใช้บริการ