เครือสหพัฒน์ประกาศเปิดตัว ‘คิงสแควร์ คอมมิตี้มอล’ พรีเมียมคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสคิงสแควร์บนถนนพระราม 3 โดยได้เริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ชูคอนเซ็ปต์ “Everyday, Rewarding Moments” มุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งความสุขและกิจกรรมสำหรับทุกคนในครอบครัว
นายจักรกฤษณ์ สันติรัตนกุล กรรมการ บริษัท คิง สแควร์ จำกัด กล่าวว่า โครงการคิงสแควร์ คอมมิตี้มอลล์ ถือเป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 2 ของเครือสหพัฒน์ต่อจากเตปาร์ค เกิดขึ้นจากความตั้งใจของเครือสหพัฒน์ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในย่านพระราม 3 มุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนใน 3 เขตได้แก่ ยานนาวา, สาทร และ บางคลองแหลมที่มีประชากรรวมกันกว่า 250,000 คนและมีครัวเรือนอยู่กว่า 138,00 ครัวเรือน ซึ่งถือว่าเป็นทำเลศักยภาพสูง โดยในขณะนี้พื้นที่เช่าจองเต็ม 100% โดยมีร้านค้ากว่า 80% คาดการณ์เปิดให้บริการเต็ม 100% ในช่วงพฤศจิกายน 2568 โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 6 ไร่ จากพื้นที่รวมทั้งหมด 100 ไร่ มุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน
โครงการมิกซ์ยูส "คิงสแควร์" ประกอบด้วยส่วนธุรกิจที่หลากหลาย ได้แก่ คอนโดมิเนียมซึ่งมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2569, โรงเรียนนานาชาติ, เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ และคอมมูนิตี้มอลล์ โดยร้านค้าที่เปิดให้บริการส่วนใหญ่เป็นร้านในเครือสหพัฒน์ โดยมีสัดส่วนร้านในเครือประมาณ 3 ร้านค้า เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ตั้งเป้ารายได้ค่าเช่าในช่วงปีแรกไว้ที่ 5 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 60 ล้านบาทต่อปี
สำหรับการลงทุนด้านค้าปลีกนั้น แม้จะมีความท้าทายสูงและต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก แต่เครือสหพัฒน์มองว่าทุกธุรกิจมีโอกาสเติบโต โดยยึดหลักการตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนเป็นสำคัญ แม้ว่าในระยะ 3 ปีแรกของการลงทุนจะยังไม่สามารถคืนทุนได้ทั้งหมด แต่การสร้างความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการจะช่วยให้ผู้เช่าพื้นที่สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในระยะยาว โดยตั้งเป้าทราฟฟิกของผู้มาใช้บริการไว้ที่ 1,000 คนต่อวัน
นายจักรกฤษณ์ย้ำว่า การขยายคอมมูนิตี้มอลล์ไม่ได้มุ่งเน้นการขยายสาขาเป็นหลัก แต่จะเกิดขึ้นเมื่อมีพื้นที่และชุมชนที่ต้องการ โดยเครือสหพัฒน์ยังมีที่ดินในทำเลอื่นที่พร้อมจะพัฒนาในอนาคต เช่น ที่ดินขนาด 17 ไร่ ใกล้กับโครงการคิงบริดจ์ ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควบคู่ไปกับธุรกิจค้าปลีกจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ดียิ่งขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน