MK ครึ่งปีแรกกำไรหด 31.2% หวังอานิสงส์ 'บุฟเฟต์-โบนัสสุกี้' ดันยอดขายครึ่งปีหลัง

14 ส.ค. 2568 | 18:00 น.

สมรภูมิหม้อร้อนแข่งเดือน แต่กำไรลดฮวบ MK GROUP รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ที่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น โดยรายได้รวมอยู่ที่ 3,877 ล้านบาท ซึ่งติดลบน้อยลงจากไตรมาสก่อนหน้า และยอดขายสาขาเดิมในเดือนมิถุนายนเติบโตถึง 9% จากอานิสงส์โปรโมชันบุฟเฟต์ 299 บาท

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MK GROUP และบริษัทย่อย รายงานผลดำเนินการในไตรมาส 2 ของปี 2568 รายได้รวม 3,877 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 3,793 ล้านบาท ซึ่งติดลบน้อยลงจากไตรมาสก่อน และงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 นั้นเท่ากับ 7,334 ล้านบาท ขณะที่ทาง MK GROUP ยังได้มีการอนุมัติการจ่ายเงินปันผล 0.50 บาท ต่อหุ้นด้วย

โดยหากเทียบผลการดำเนินการในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 เห็นได้ชัดถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.1% เหตุจากการทำการตลาดที่ตอบรับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคตั้งแต่ต้นปีอย่างต่อเนื่อง และในช่วงเดือนมิถุนายน ร้าน MK Restaurants ได้มีการจัดทําโปรโมชั่น คุ้ม คุ้ม อิ่มไม่อั้น ในราคา 299 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมในเดือนมิถุนายนมีการเติบโตร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเติบโตร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณดีกับการฟื้นตัวที่โตสวนกระแสสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว ทั้งยังสามารถดึงกลุ่มลูกค้าเก่ากลับมาใช้บริการ และขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ได้อีก

MK ครึ่งปีแรกกำไรหด 31.2% หวังอานิสงส์ 'บุฟเฟต์-โบนัสสุกี้' ดันยอดขายครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ คาดในไตรมาส 3 จะมีแนวโน้มเติบโต โดยวางแผนรุกต่อเนื่อง เริ่มจาก MK Restaurants ประกาศขยายโปร “คุ้ม คุ้ม อิ่มไม่อั้น 299 บาท” ถึงเดือนสิงหาคมแล้ว รวมถึงแบรนด์น้องใหม่ในพอร์ต “Bonus Suki” ที่พึ่งเปิดตัวสาขาแรก ในช่วงเดือนกรกฎาคม และแผนการขยายสาขาของแบรนด์ในเครือ

ส่วนรายได้จากการขายและบริการสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 นั้นเท่ากับ 7,334 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8.9 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และยอดขายสาขาเดิมก็ได้ปรับลดลงร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าด้านกำไร มีกำไรขั้นต้นท่ากับ 2,474 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.4 เมื่อเทียบกับช่วงกับของปีก่อนหน้า โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายและบริการก็ได้ปรับลดลงจากร้อยละ 67.2 ในไตรมาส 2 ปี 2567 เป็นร้อยละ 65.2ในไตรมาสนี้

ส่วนกำไรขั้นต้นสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 เท่ากับ 4,827 ล้านมาท ลดลงร้อยละ 11.1 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้สัดส่วนทำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายและบริการปรับลดลงจากร้อยละ 67.4 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 เป็นร้อยละ 65.8 สำหรับงวดเดียวกันของปีนี้

จากปัจจัยต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทำให้ทำไร้สุทธิของบริษัทฯและบริษัทช่วยปรับลดลงจาก 401 ล้านมาท ในโตรมาส 2 ของปี 2567 เป็น 276 ล้านมาท ในไตรมาลนี้ ลดลง 125 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 31.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิเท่ากับ 509 ล้านบาท ลดลง 238 ล้ามมาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 31.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า