บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ตอกย้ำศักยภาพขององค์กรไทยในเวทีระดับโลกอีกครั้ง เมื่อ นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้รับเกียรติร่วมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเสวนาในงาน Global Summit of Women 2025 ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำหญิงระดับนานาชาติที่ทรงอิทธิพล จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 35 ภายใต้หัวข้อ "Women: Restoring Values in the Digital Age" ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2568 โดยมีผู้นำกว่า 60 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
ในเวทีเสวนา Women CEO Forum ภายใต้หัวข้อ "Should Companies Take a Position on Socio-Cultural Issues?" ซึ่งดำเนินรายการโดย Irene Natividad ประธานการประชุม Global Summit of Women นางสาวปิยจิตได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำหญิงระดับสูงจากองค์กรชั้นนำระดับโลก สะท้อนบทบาทของผู้หญิงยุคใหม่ที่ไม่เพียงเป็นผู้ใช้นวัตกรรม แต่ยังเป็นผู้นำในการฟื้นฟูคุณค่าและจริยธรรมให้แก่โลกธุรกิจและสังคมในยุคดิจิทัล
คุณปิยจิตได้ถ่ายทอดเรื่องราวการเติบโตของเซ็ปเป้ จากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายในฐานะธุรกิจอาหารขนาดเล็กของครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนรุ่นที่สอง สู่การเป็นบริษัทเครื่องดื่มนวัตกรรมที่ส่งออกไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการเงินจากการทำงานกับสถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Deutsche Bank, Barclays Capital และ BNP Paribas เธอได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาวางรากฐานองค์กรในฐานะ CFO ในช่วงที่เซ็ปเป้กำลังเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง CEO และขับเคลื่อนเซ็ปเป้จนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยที่แข็งแกร่งในระดับนานาชาติ
บนเวที Global Summit of Women คุณปิยจิตได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า SAPPE ยึดมั่นในบทบาทขององค์กรที่ "กล้ายืนหยัดเพื่อคุณค่าที่เชื่อ" โดยไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาด แต่เป็นการส่งเสียงอย่างมีจุดยืนในประเด็นสำคัญต่อสังคมและวัฒนธรรม คุณค่าหลักขององค์กรที่ถูกหล่อหลอมอยู่ใน DNA ของ SAPPE ได้แก่ ความเป็นนักนวัตกรรม การส่งเสริมบทบาทผู้หญิง และความหลากหลายเท่าเทียม
SAPPE เป็นผู้บุกเบิกเครื่องดื่มหมวดหมู่ใหม่ของโลกที่เรียกว่า "Snack Drink" หรือเครื่องดื่มที่เคี้ยวได้ โดยมีแบรนด์ Mogu Mogu น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว (Nata de Coco) เป็นหัวหอกที่สร้างปรากฏการณ์และเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั่วโลก
การส่งเสริมบทบาทผู้หญิง บริษัทยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ "Sappe Beauti Drink" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันที่สะท้อนจุดยืนในการส่งเสริมให้ผู้หญิงดูแลตนเอง รักและภาคภูมิใจในความงามจากภายใน ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ "สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร" (Self-Love) ภายใต้แนวคิดว่า "ผู้หญิงไม่ควรรอให้ใครมายืนยันคุณค่า แต่ควรเป็นคนที่เชื่อมั่นในความงามของตนเอง และสามารถเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้"
ความหลากหลายและเท่าเทียม SAPPE ให้ความสำคัญกับเรื่องความเท่าเทียม ความหลากหลาย และการเปิดกว้างอย่างแท้จริง โดยมีสัดส่วนพนักงานหญิงถึง 53% และในระดับผู้บริหารระดับสูงมีสัดส่วนถึง 60% ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่าที่แท้จริง
คุณปิยจิตกล่าวถึงความสำคัญของโครงสร้างองค์กรที่ไม่เป็นลำดับชั้น (Flat Organization) ซึ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการแลกเปลี่ยนข้อมูลในทุกระดับ โดยมีการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งการประชุมผู้ถือหุ้น การสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค และการเปิดพื้นที่ให้ทีมงานทุกระดับเข้าถึงผู้บริหารได้โดยตรง เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนกล้าแสดงความคิดเห็นภายใต้ความเคารพซึ่งกันและกัน
สำหรับการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะพนักงาน Gen Z ที่มีสัดส่วนถึง 20% ขององค์กร คุณปิยจิตระบุว่าคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับ "Purpose" หรือเป้าหมายในการทำงานอย่างมาก ดังนั้น SAPPE จึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารพันธกิจ ค่านิยม และเป้าหมายขององค์กรให้ชัดเจน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กร และออกแบบระบบประเมินผลงานที่ชัดเจนและเป็นธรรม เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าตนมีคุณค่าในองค์กรอย่างแท้จริง แนวคิดนี้เองที่ทำให้ SAPPE สามารถขับเคลื่อนด้วยไอเดียใหม่ๆ และเชื่อมโยงกับความเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในฐานะผู้นำองค์กรระดับโลก SAPPE ยังให้ความสำคัญกับการเคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยไม่ยึดหลัก "One Size Fits All" ในการบริหารจัดการในแต่ละประเทศ พร้อมเน้นย้ำว่า ซีอีโอต้อง "Walk The Talk" หรือเป็นผู้ลงมือทำจริงในทุกเรื่องที่องค์กรยึดถือ ไม่ว่าจะเป็นความโปร่งใส ความซื่อสัตย์ หรือความรับผิดชอบ ทั้งต่อพนักงาน ผู้บริโภค และสังคมโดยรวม