เครือสหพัฒน์เปิดฉากงาน “สหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29” อย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภค การจัดงานปีนี้จึงมุ่งตอบโจทย์ "ลดค่าครองชีพ" ด้วยสินค้าราคาพิเศษกว่า 1,000 รายการ ทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ ควบคู่ไปกับการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคธุรกิจครั้งสำคัญ ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) มากถึง 16 ฉบับ ครอบคลุมหลากหลายมิติการลงทุนและขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานจัดงานสหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันยังคงเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคต้องพิจารณาความคุ้มค่าในการซื้อสินค้าอย่างรอบคอบ
งานสหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ "Big Shop Big Show" ตั้งแต่วันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2568 (10.00-21.00 น.) ณ ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา และตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ BIGXSHOW และ FRIDAY FAIR จึงมุ่งตอบโจทย์สถานการณ์ดังกล่าว
"Big Shop Big Show" มิติใหม่ของการบริโภคและการตลาด
ในส่วนของ "Big Shop" งานได้ระดมสินค้าอุปโภคบริโภคจากบริษัทในเครือสหพัฒน์มาจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงสินค้าคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า อาทิ อาหาร, เครื่องดื่ม, ของใช้ในครัวเรือน, สินค้าเพื่อสุขภาพ รวมถึงเครื่องสำอาง, เสื้อผ้า, ชุดชั้นใน, อุปกรณ์กีฬา, ของใช้เด็ก และสินค้าสัตว์เลี้ยง พร้อมด้วยโปรโมชันและสินค้าราคาพิเศษกว่า 1,000 รายการ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่ BIGXSHOW ที่ผสานความบันเทิงจากการถ่ายทอดสดกับการช็อปปิ้งเรียลไทม์ และ FRIDAY FAIR แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ฝีมือคนไทย 100% พร้อมกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ในทุกหมวดหมู่
ขณะที่ "Big Show" มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์และความบันเทิงเต็มรูปแบบ โดยรวมพลอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมาร่วมไลฟ์สตรีมมิ่งรีวิวและจำหน่ายสินค้า สร้างคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ ควบคู่ไปกับกิจกรรมพิเศษ อาทิ แฟชั่นโชว์, มินิคอนเสิร์ต, การประกวด และสัมมนา/เวิร์กช็อปหลากหลายหัวข้อโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้กับผู้สนใจ
นายธรรมรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการกระตุ้นการจับจ่ายและนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ผู้บริโภคแล้ว กิจกรรมสำคัญที่สะท้อนวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเครือสหพัฒน์ คือ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) จำนวน 16 ฉบับ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรและการแข่งขันให้กับธุรกิจของไทย โดยนับเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในหลายมิติ ดังนี้:
การลงนาม MOU ทั้ง 16 ฉบับนี้ สะท้อนถึงยุทธศาสตร์เชิงรุกของเครือสหพัฒน์ในการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสใหม่ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตสูงและตอบโจทย์กระแสของโลก ทั้งเทคโนโลยีดิจิทัล พลังงานสะอาด และบริการเฉพาะทาง ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวผ่านความท้าทายในปัจจุบันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว