เทรนด์นักอ่าน “Gen Z” มาแรง คาดตลาดหนังสือแตะ 2 หมื่นล้านในปี 69

19 เม.ย. 2568 | 04:16 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2568 | 04:22 น.

ชี้เทรนด์หนังสือ 2025 “นิยายสืบสวน-ยูริ-แฟนตาซี” มาแรง PUBAT แนะผู้ประกอบการปรับเข็มทิศ รับพฤติกรรมผู้อ่านเปลี่ยน สร้างช่องทางการขายใหม่ หนุนเม็ดเงินสะพัด หลังเผชิญอุปสรรคดันต้นทุนการผลิตพุ่ง คาด 5 ปีดันไทยฮับหนังสือเอเชีย และ 10 ปีฮับหนังสือโลก

นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปี 2567 ตลาดหนังสือไทยมีมูลค่าประมาณ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท คาดว่าในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.75 หมื่นล้านบาท และหากแนวโน้มการเติบโตยังต่อเนื่อง คาดว่ามูลค่าตลาดอาจถึง 2 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2569 โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้ตลาดหนังสือขยายตัวมาจากการจัดงานหนังสือระดับชาติ ที่ดึงดูดทั้งสำนักพิมพ์และนักอ่านให้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ควบคู่ไปกับการเติบโตของตลาดหนังสือออนไลน์

จากข้อมูลงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ที่ผ่านมาซึ่งมีผู้ร่วมงานมากกว่า 1.3 ล้านคน ผลสำรวจรวมกว่า 8,000 คน พบว่านักอ่านนิยมอ่านการ์ตูนสูงสุด ถัดมาคือนิยายและวรรณกรรม ประเภทสยองขวัญ สืบสวนสอบสวน ถัดมาเป็นหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาหรือให้กำลังใจ ลำดับสุดท้ายคือหนังสือพัฒนาตัวเอง (How to) และตำราเรียน

ขณะเดียวกันกระแสของซีรีส์ ภาพยนตร์ แอนิเมชัน แนวยูริ (หญิงรักหญิง) ก็กำลังเป็นที่สนใจมากขึ้นและคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 ส่วนแนวแฟนตาซีเคยได้รับความนิยมมาแล้วก็เริ่มกลับมาเป็นกระแส โนักอ่านให้ความสนใจเรื่องราวเหนือจินตนาการมากขึ้น และตอนนี้หนังสือแนวสยองขวัญ กำลังเติบโตต่อเนื่องจากอิทธิพลของสื่อบันเทิง เช่น ภาพยนตร์เรื่องธี่หยดและซีรีส์

เทรนด์นักอ่าน “Gen Z” มาแรง คาดตลาดหนังสือแตะ 2 หมื่นล้านในปี 69 สถิติที่ผ่านมาความนิยมการอ่านมักเป็นหนังสือนิยายวรรณกรรม แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถูกโค่นแชมป์ด้วยหนังสือการ์ตูนหรือมังงะ จากกลุ่มนักอ่าน Gen Z ที่คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 43.65% โดยนักอ่านกลุ่มนี้เป็นคนรุ่นใหม่ กำลังซื้อมีอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยกลุ่ม Gen Y คิดเป็นสัดส่วน 36.1% และ Gen X สัดส่วน 19.75% ตามลำดับ

ในภาพรวมของกลุ่มนักอ่านจะเป็นผู้หญิง 66% ผู้ชาย 27% LGBTQ+ 6% และไม่ระบุเพศอีกประมาณ 1% มีอัตราการซื้อหนังสือโดยเฉลี่ยส่วนใหญ่ประมาณ 1,352 บาท/คน แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ตามลำดับคือ 600 - 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 30.88% ตามด้วย 1,000 -1,500 บาท คิดเป็นสัดส่วน 14.70% และมากกว่า 3,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 12.84%

นายสุวิช กล่าวว่า สำหรับตลาดหนังสือที่มีแนวโน้มเติบโต ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหนังสือสูงขึ้นตามไปด้วย บางเล่มราคาสูงกว่าที่ผู้อ่านสามารถจ่ายได้ อีกปัญหาหนึ่งคือ ค่าตอบแทนของนักเขียนและนักแปล ที่ยังค่อนข้างต่ำ ทำให้ยากที่จะดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่วงการ ส่งผลให้การผลิตหนังสือดีๆ อาจลดลงในระยะยาว อีกทั้งการเลือกเสพเนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือสื่อบันเทิงอื่นๆ ทำให้บางกลุ่มอ่านหนังสือเล่มลดลง

อย่างไรก็ตาม แนวทางการผลักดันอุตสาหกรรมหนังสือไทยให้เป็นหนึ่งในซอฟท์พาวเวอร์ที่สำคัญของประเทศไทยนับจากนี้ ทางสมาคมยังคงเดินหน้าตาม 4 ยุทธศาสตร์ที่ได้เคยประกาศไว้ คือ

  1. ดันหนังสือไทยสู่เวทีโลก ด้วยพลังซอฟท์พาวเวอร์
  2. สร้างเครือข่าย & ขยายตลาดสู่ระดับโลก
  3. สร้างระบบนิเวศใหม่ ดึงคนไทยกลับมาอ่านหนังสือ และ
  4. ยกระดับงานสัปดาห์หนังสือให้เป็นเวทีระดับโลก

ทั้งนี้คาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถผลักดันให้อุตสาหกรรมหนังสือของไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ภายใน 5 ปีเป็นศูนย์กลางของเอเชีย และภายใน 10 ปีเป็นศูนย์กลางของโลกได้อย่างแน่นอน