สาดงบฉ่ำ “สงกรานต์ 2568” เอกชนปักหมุดจัดใหญ่ ดึงนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ

เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นบิ๊กอีเว้นต์ที่ดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศสร้างเม็ดเงินได้มหาศาล หลังรัฐบาลประกาศผลักดันเทศกาลแห่งความสุขนี้สู่ Soft Power ระดับโลก และล่าสุด “สงกรานต์ไทย” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจาก UNESCO ยิ่งเป็นการตอกย้ำความสำคัญและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสเสน่ห์ของประเพณีไทย

โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศในช่วงสงกรานต์ปีนี้ถึง 2 ล้านคน ถือเป็นโอกาสทองในการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ที่ผ่านมา ในช่วงวันที่ 11-15 เมษายน 2567 มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และในปีนี้ ระหว่างวันที่ 12 - 16 เมษายน 2568 (รวม 5 วัน) คาดว่าจะสร้างรายได้ท่องเที่ยวราว 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 4.76 แสนคน เพิ่มขึ้น 3% สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 7,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5%

เพื่อรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวและกระแสความนิยมสงกรานต์ในระดับโลก ภาคเอกชนต่างขานรับนโยบายรัฐบาลอย่างคึกคัก พร้อมสาดงบประมาณจำนวนมากในการจัดกิจกรรม โปรโมชั่น และแคมเปญต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงความคึกคักผ่านเทศกาลดนตรี ต่างเตรียมพร้อมนำเสนอประสบการณ์สงกรานต์ที่หลากหลายและน่าประทับใจ เพื่อสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวและกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสำคัญนี้

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “สงกรานต์ไทย สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในฐานะเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า เป็นเทศกาลระดับโลกที่ดึงดูดทุกคนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างมหาศาล ไอคอนสยามผนึกพันธมิตรร่วมกันจัดงาน “ICONSIAM THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION 2025” ในระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน 2568 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม

หวังให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมไทย ยกระดับเทศกาลประเพณีไทยสู่ World Class Event และพร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางอีเวนต์ระดับโลก ทั้งนี้ คาดการณ์มีผู้ร่วมงานตลอด 7 วัน ไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านคน โดยคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวเป็นคนไทย 50% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 50% สร้างการจับจ่ายหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าสูงขึ้นกว่า 40%

ด้านนางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เพื่อขานรับโครงการ Thailand Summer Festivals ของภาครัฐ ที่มุ่งเน้นให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การจัดเทศกาลสงกรานต์จึงเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 เดือนบริษัทเตรียมใช้จ่ายงบด้านการตลาดราว 300 ล้านบาท

“การจัดงาน “THE MALL LIFESTORE SONGKRAN FESTIVAL” มหากาพย์สงกรานต์ สาดความสุข สนุกทั้งครอบครัว มุ่งเน้นการนำเสนอกิจกรรมรองรับกลุ่มครอบครัว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ซึ่ง ททท. คาดว่าช่วงสงกรานต์จะเติบโต 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน”

ขณะที่บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เดินหน้าจัดงาน ‘THAILAND’S SONGKRAN FESTIVAL 2025’ ปรากฎการณ์สงกรานต์มหาบันเทิง ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชันแบบนอนสต็อป ตลอด 10 วัน 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 11-20 เมษายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ พร้อมผลักดันเอกลักษณ์ไทยอย่างเทศกาลสงกรานต์สู่ The World’s Best Festive Destination โดยมี 28 แลนด์มาร์กคอนเสิร์ตสุดมันส์และสาดน้ำมหาบันเทิง พร้อมสัมผัส 40 แลนด์มาร์กไทยมหาบันเทิงพร้อมสนุกไปกับ 300 ศิลปินชื่อดังจากทุกค่าย

นายรชต ธันยาวุฒิ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด ผู้จัดงาน SIAM Songkran Music Festival 2025 กล่าวว่าปีนี้ทุ่มงบกว่า 250 ล้านบาท ขยายพื้นที่จัดงานเป็น 23 ไร่ และตั้งเป้ารองรับผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ SIAM Songkran Music Festival เป็นเทศกาลดนตรีในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนคน จากปีก่อนที่มีกว่า 7 หมื่นคน และทำรายได้กว่า 300 ล้านบาท สะท้อนถึงความนิยมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 1,000 ล้านบาท ตลอดช่วงสงกรานต์

“สงกรานต์เฟสติวัลในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทย 55% และอีก 45% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้ง มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ฯลฯ เป็นหลัก และคาดการณ์ผู้ร่วมงานทะลุ 2.5 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งงานนี้จะไม่เพียงเป็นเทศกาลดนตรีเท่านั้น แต่ได้พัฒนาสู่ Lifestyle Festival ที่ผสมผสานความสนุกของดนตรี EDM ระดับโลกเข้ากับวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย ปัจจัยบวกสำคัญที่จะส่งผลให้งานปีนี้นั้นมีผู้ร่วมงานมากกว่าปีก่อนนอกเหนือจากต่อยอดความสำเร็จและพัฒนางานให้มีสเกลที่ใหญ่ขึ้น ยังมีปัจจัยอย่างการสมรสเท่าเทียมในไทย

เรามีกลุ่มลูกค้า LGBTQ+ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในงาน โดยมองว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการช่วยเพิ่มความน่าสนใจและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับงาน บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์และบรรยากาศที่เป็นมิตรและเปิดกว้างสำหรับกลุ่มลูกค้า LGBTQ+ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว เนื่องจากกลุ่มนี้มักมีกำลังซื้อสูงและให้การสนับสนุนกิจกรรมที่สอดคล้องกับความสนใจของตนเอง”

ด้าน “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” ผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรี S2O Songkran Music Festival กล่าวว่า งาน “Pepsi presents S2O Songkran Music Festival” ในปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจนำรายได้เข้าประเทศกว่า 1,400 ล้านบาท และพร้อมเป็นกระบอกเสียงในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้ดังกระหึ่มไปทั่วโลก S2O ไม่ใช่เทศกาลดนตรีธรรมดา แต่เป็นการผสานวัฒนธรรมประเพณีไทยเข้ากับเทศกาลดนตรีระดับโลก ให้ทุกคนได้สัมผัสเสน่ห์สงกรานต์ในรูปแบบที่ล้ำสมัยสุด ๆ

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,084 วันที่ 3 - 5 เมษายน พ.ศ. 2568