พันธุ์ไทยแจ้งขาดแคลนมัทฉะชั่วคราว กระแสบูม-ซัพพลายไม่พอ!

17 ก.พ. 2568 | 09:36 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.พ. 2568 | 11:00 น.

ความนิยมมัทฉะเพิ่มไม่หยุดส่งผลต่อซัพพลายเชน พันธุ์ไทยแจ้งขาดแคลนชั่วคราว เร่งจัดการสต็อก หวังกลับมาให้บริการทุกสาขาโดยเร็ว

มัทฉะกำลังเป็นที่ต้องการสูงทั่วโลก ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนชั่วคราว โดยเฉพาะในตลาดไทยที่กำลังเติบโตจากกระแสสุขภาพและเครื่องดื่มพรีเมียม

บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ประกาศเรื่องการขาดแคลนมัทฉะชั่วคราว เนื่องด้วยความนิยมมัทฉะที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การบริโภคมัทฉะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การผลิตมัทฉะมีข้อจำกัด

รูปจากเพจ : PunThai Coffee

เนื่องจากต้องใช้ใบชาเฉพาะที่ปลูกและเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน ปีละครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ จากปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงยังส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการเพื่อเตรียมสต็อกมัทฉะให้เพียงพอต่อความต้องการ

โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟได้ทุกสาขาทั่วประเทศในเร็วๆ นี้ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ และขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจเมนูมัทฉะ และให้การสนับสนุนพันธุ์ไทยตลอดมา

ความต้องการพุ่งสูง แต่การผลิตจำกัด

ปัจจุบัน มัทฉะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทำให้ซัพพลายที่เคยเพียงพอกลับกลายเป็นสินค้าที่ต้องรอการจัดสรร

รูปจากเพจ : PunThai Coffee

สำหรับบริษัทกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย กำลังเร่งจัดหาวัตถุดิบและบริหารสต็อกอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถกลับมาจำหน่ายเครื่องดื่มมัทฉะให้แก่ลูกค้าได้โดยเร็วที่สุด

มัทฉะบูม! ตลาดเครื่องดื่มสีเขียวพุ่งต่อเนื่อง

ตลาดเครื่องดื่มพรีเมียมกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มที่เน้นสุขภาพ หนึ่งในหมวดสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องคือ ‘มัทฉะ’ หรือชาเขียวบดละเอียด ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่มองหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งในรูปแบบเครื่องดื่มร้อน เย็น และเมนูฟิวชันต่าง ๆ

ข้อมูลจาก UnivDatos Market Insights คาดการณ์ว่าตลาดมัทฉะทั่วโลกจะเติบโตเฉลี่ย 9.44% ต่อปีในช่วงปี 2565-2570 และคาดว่ามูลค่าตลาดจะสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.9 แสนล้านบาท ภายในปี 2570

รูปจากเพจ : PunThai Coffee

ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศผู้ส่งออกมัทฉะรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่จีนเป็นประเทศที่มีการบริโภคมัทฉะมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านอุปสงค์ที่พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนมัทฉะในบางช่วงเวลา ส่งผลให้แบรนด์เครื่องดื่มและผู้ผลิตต้องเร่งหาทางออก ทั้งการกระจายแหล่งนำเข้า และการนำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ ให้แก่ผู้บริโภค

มัทฉะในประเทศไทย เครื่องดื่มยอดนิยมของคนรุ่นใหม่

สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก เพจการตลาดวันละตอน ที่ใช้เครื่องมือ Social Listening สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า คนไทยดื่มมัทฉะเป็นจำนวนมาก โดยเมนูที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่

  • มัทฉะลาเต้ 33%
  • ชาเขียวมะลิ 27%
  • ชาเขียวมะนาว 19%
  • Strawberry Matcha 12%
  • ชาเขียวมะพร้าว 9%

แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยมีรสนิยมที่หลากหลายและให้ความสำคัญกับคุณภาพของชาเขียวมากขึ้น ร้านกาแฟและเครื่องดื่มหลายแบรนด์จึงเริ่มพัฒนาสูตรใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภค

ปัญหาการขาดแคลนมัทฉะและแนวทางแก้ไขของตลาดโลก

นักวิเคราะห์ตลาดมองว่า การขาดแคลนมัทฉะในบางช่วงอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องดื่มสีเขียวระดับโลก แต่ผู้ประกอบการหลายรายได้เริ่มปรับตัว เช่น

1.กระจายแหล่งนำเข้า – แม้ญี่ปุ่นจะเป็นผู้ส่งออกหลัก แต่บางบริษัทเริ่มหันไปหาแหล่งผลิตใหม่ ๆ เช่น จีน เกาหลีใต้ และเวียดนาม เพื่อกระจายความเสี่ยง

2.พัฒนาเครื่องดื่มสีเขียวทางเลือก – มีการนำเสนอเครื่องดื่มจากชาเขียวชนิดอื่น ๆ เช่น เซนฉะ และโฮจิฉะ รวมถึงเครื่องดื่มจากซุปเปอร์ฟู้ดอื่น ๆ เช่น สไปรูลิน่า และมัทฉะผสมโปรตีน

3.ปรับปรุงกระบวนการผลิต – ผู้ผลิตบางรายเริ่มใช้เทคนิคการเก็บเกี่ยวและกระบวนการแปรรูปใหม่ ๆ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มปริมาณผลผลิต