สมาพันธ์ SME ขอนายกใหม่ ดันดิจิทัล วอลเล็ตต่อ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

16 ส.ค. 2567 | 09:27 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2567 | 10:48 น.

ประธานสมาพันธ์ SME ไทย เรียกร้อง "นายกใหม่” เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มั่นใจโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปต่อได้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเสนอ 6 มาตรการชงครม.ชุดใหม่ ช่วยธุรกิจเอสเอ็มอี

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ SME ไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” อยากเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่เดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเลต ซึ่งมีความสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งการพิจารณาโครงการสำคัญต่าง ๆ ที่สำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

กรณีความกังวลถึงนโยบายดิจิทัล วอลเลต อาจมีแนวโน้มกระทบในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามกำหนดที่วางกรอบไว้ แต่ยังเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวไม่ล้มแน่นอนและมีแนวโน้มสานต่อไปได้ แต่จะต้องพิจารณาและปรับปรุงให้สอดคล้องกับบริบทของการสร้างความยั่งยืนให้กับกลุ่มเปราะบาง เช่น เอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และแรงงาน

สมาพันธ์ SME ขอนายกใหม่ ดันดิจิทัล วอลเล็ตต่อ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

การปรับปรุงโครงการนี้จะช่วยเร่งให้เกิดการ สร้างงาน สร้างอาชีพ และ ยกระดับทักษะ ของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยสามารถนำกลไกของโครงการมาใช้ในการ เข้าถึงมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ และ สร้างฐานข้อมูล เพื่อวิเคราะห์และพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต

สมาพันธ์ SME เสนอ 6 มาตรการเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ สมาพันธ์ SME ยังได้เสนอมาตรการเร่งด่วน 6 ประการที่รัฐบาลชุดใหม่ควรให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตามหากมีแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ก็อยากให้ช่วยพิจารณามาตรการต่อไปนี้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

  1. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระจายรายได้สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น
  2. มาตรการลดต้นทุนผู้ประกอบการและลดค่าครองชีพประชาชนและแรงงาน
  3. มาตรการเข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำของเอสเอ็มอีและการแก้ไขหนี้ทั้งระบบ ยกระดับคุณภาพหนี้ครัวเรือน
  4. มาตรการยกระดับขีดความสามารถผู้ประกอบการและแรงงานให้มีทักษะ สมรรถนะพร้อมแข่งขัน รองรับการเปลี่ยนแปลงและสร้างงาน สร้างอาชีพที่มีคุณค่าเพิ่มขึ้น
  5. การแก้ไขปัญหา อุปสรรคของผู้ประกอบการด้านกฎหมาย กฎระเบียบภาครัฐให้อำนวยความสะดวกรวดเร็ว เข้าถึงใช้ประโยชน์ได้ง่าย ลดค่าใช้จ่าย
  6. ยุทธศาสตร์การค้า การลงทุนที่รองรับทุนข้ามชาติที่สร้างสมดุลทางเศรษฐกิจร่วมกัน อาทิ เศรษฐกิจนอกระบบในสินค้าที่เข้ามาไม่ถูกต้อง การเข้ามาค้าขายประกอบธุรกิจไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งการขออนุญาต การเสียภาษี สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ภาคเกษตรกับล้งและสัญญาเหมาสวนที่แทรกแซงกลไกราคาจากต่างชาติ ทัวร์ศูนย์เหรียญที่ทำให้ประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์และคุณภาพต่ำเสียภาพลักษณ์ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบโลจิสติกส์ไทยมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยกับนอมินีต่างชาติที่ขยายไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แพลตฟอร์มออนไลน์ไทยที่ต้องขยายผลทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น

นายแสงชัย มั่นใจว่าหากรัฐบาลใหม่สามารถดำเนินนโยบายเหล่านี้ได้ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว