"โตชิบา" โตสวนตลาด ขยายฐานผลิตตู้เย็น-เครื่องซักผ้ามาไทย

มร.อเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ผลสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย อาทิ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย”

หากไม่นับรวมเครื่องปรับอากาศ นับเฉพาะตู้เย็นและเครื่องซักผ้าจะเติบโต 5% ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Appliance) ติดลบ 7%  ส่วนโตชิบา ไทยแลนด์ ผลประกอบการครึ่งปีแรกที่เติบโตเกินคาด มากถึง 26%  จากทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ เครื่องซักผ้า เติบโตมากถึง 47% เนื่องจากมีสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ออกตลาดมากขึ้น

โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาหน้า ประกอบกับสินค้าหลายรุ่นย้ายฐานการผลิตมาในประเทศไทย ทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องราคา รวมไปถึงการบริหารซัพพลายเชน 

สำหรับสินค้าที่เติบโตรองลงมา ได้แก่ กลุ่มไมโครเวฟ เติบโตถึง 19% กลุ่มตู้เย็น 15%  กลุ่มหม้อหุงข้าวและสินค้าชิ้นเล็ก 6% และกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น 1%

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ แม้โตชิบาจะไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ภาพรวมตลาดติดลบ  เนื่องจากอากาศไม่เอื้ออำนวย  และกลุ่มสุดท้ายคือเครื่องปรับอากาศ เติบโตมากถึง 103% เพียงแต่สัดส่วนการขายไม่มาก

จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องมาตลอดหลายปี ทำให้ปัจจุบัน  โตชิบามีมาร์เก็ตแชร์ติดอันดับท็อป 3 ในเกือบทุกกลุ่มสินค้า ดังนี้

• ไมโครเวฟมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ด้วยแชร์ 28.5% 
• ตู้เย็น อันดับ 2 ด้วยแชร์ 16% หม้อหุงข้าว อันดับ 2 ด้วยแชร์ 9.2%
• เครื่องซักผ้า อันดับ 3 ด้วยแชร์ 10.8%  และถ้าดูสถิติย้อนหลัง 5 ปี

โตชิบาบุกสินค้าที่เป็น Mid to High ขยายฐานการผลิตจากจีนมาไทยกว่า 30%

ตั้งแต่ปี 2562-2566 จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) เฉลี่ย 12% ซึ่งจากตัวเลขทั้งหมด ปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ เติบโตต่อเนื่อง และมีมาร์เก็ตแชร์อันดับต้น ๆ ของตลาด เพราะบริษัทฯ ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงกลุ่ม ทั้งนี้ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ เปิดตัวสินค้าใหม่ไป 17 รุ่น

โดยเน้นกลุ่มสินค้าที่เป็น Mid to High มากขึ้น นอกจากนี้บริหารจัดการภายใน ทั้งในเรื่องซัพพลายเชน และการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยหลังช่วงโควิด ปัจจุบันสินค้ากว่า 30% ผลิตที่ไทย โตชิบาตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีสินค้าผลิตที่ไทยกว่า 50%  

ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย ตั้งแต่ต้นปี เพิ่มพนักงานขายหน้าร้าน ประมาณ 20% มีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เพื่อปรับแนวทางการบริหารช่องทางให้เหมาะสม รวมถึงยังคงให้ความสำคัญกับการปรับโฉมหน้าร้านค้าให้สวยงาม ทันสมัย และเพิ่มเติมพื้นที่พิเศษให้เป็น Experience Zone มากขึ้น

แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง

สำหรับเป้าหมายในช่วงครึ่งปีหลัง โตชิบาตั้งเป้าเติบโต 14% ในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้ยอดขายรวมทั้งปีเติบโตประมาณ 20% พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ 27 รุ่น เน้นกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงสูง

และสินค้าเรือธงอย่างตู้เย็น Japandi Series ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพิ่มพนักงานขายหน้าร้าน และขยายพื้นที่ Experience Zone เสริมแคมเปญการตลาด โดยมีคุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “โตชิบายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย และสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้น”