มาลี โชว์ฟอร์ม ไตรมาส 1 ทำยอดขายโต 15% กำไรกว่า 260%

24 พ.ค. 2567 | 22:11 น.

นักท่องเที่ยวฟื้น-เทรนด์สุขภาพแรง ดันยอดขายไตรมาส 1 "มาลี กรุ๊ป" โต 15% ทำกำไรโตกว่า 260% ครองส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้พรีเมียม 21%

นายราชเทพ นฤหล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดน้ำผลไม้ไทยในปี 2566 มีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท เติบโต10 - 11 % โดยเฉพาะตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมที่มีมูลค่า 3,000 ล้านบาท มาลีครองส่วนแบ่งตลาด 21% ขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 ในรอบหลายปี ปัจจัยสำคัญที่หนุนความสำเร็จมาจาก กระแสสุขภาพ ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น เลือกดื่มน้ำผลไม้เพื่อเติมเต็มสารอาหารและวิตามิน และการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักในโรงแรมมีความต้องการน้ำผลไม้สดๆ เพื่อทานคู่กับอาหาร

ปีนี้ มาลี กรุ๊ป ทุ่มงบ 3% ของยอดขายทั้งหมด มุ่งเน้นการศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง โดยพบว่าผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่หลากหลายและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

นายราชเทพ นฤหล้า

สำหรับภาพรวมปี 2566 ที่ผ่านมาในประเทศไทยมียอดขาย 20% และผลกำไรที่เพิ่มขึ้น 138% จากผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้และผลิตภัณฑ์นม ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปีนี้ มาลี มียอดขายเพิ่มขึ้น 15% กำไรเติบโตขึ้นถึง 261% โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายให้เท่ากับปีที่แล้ว 

ส่วนต่างประเทศมียอดขายเพิ่มขึ้น 17% โดยจะมุ่งเน้นตลาดขนาดใหญ่ที่ศักยาภาพ เช่น จีน เกาหลี สหรัฐอเมริกา กัมพูชา อินโดนีเซีย และเวียดนาม และธุรกิจ OEM  ยอดขายเพิ่มขึ้น 22% ทั้งในประเทศและต่างประเทศจากลูกค้ารายเดิมและลูกค้าใหม่

นายราชเทพ กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่มีส่วนช่วยในการสร้างการเติบโตของเราในปีที่ผ่านมา คือกลยุทธ์ "One Malee" ด้วยการรวมศักยภาพของหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เราสามารถจัดการบริหารในทุกภาคส่วนได้ดีขึ้น ตอบสนองต่อตลาดได้เร็วขึ้น พร้อมด้วยเป้าหมายของเราที่ต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขจากพลังของผลิตภัณฑ์ผลไม้ พืช ผักและนม

นายราชเทพ นฤหล้า

นอกจากนี้กลยุทธ์การสื่อสารสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของมาลีที่ออกสู่ท้องตลาดจึงมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น ด้วยการให้ความสำคัญกับการบอกเล่าคุณประโยชน์ของสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยในกลุ่มน้ำผลไม้พรีเมียมจะเห็นได้จากความสำเร็จของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในสองแคมเปญ ได้แก่ น้ำมะพร้าว Malee COCO ที่มุ่งสื่อสารและให้ความรู้กับผู้บริโภค

โดยอาศัยข้อมูลจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ พบว่าโพแทสเชียมในน้ำมะพร้าวธรรมชาติมีส่วนช่วยปรับสมดุลปริมาณโซเดียม เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคไทยที่ชอบรับประทานอาหารรสจัด แคมเปญการตลาดจึงตอกย้ำจุดขายในการดูแลตัวเอง เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มโอกาสในการดื่มน้ำมะพร้าวมากขึ้นทุกวัน ส่งผลให้ในปี 2566 ที่ผ่านมา ยอดขายของ Malee COCO เติบโตขึ้นถึง 103%

และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมากที่สุด นับว่าเป็นส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดน้ำมะพร้าวในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ “น้ำส้มมาลี มีดีที่เฮสเพอริดิน” ที่ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับประโยชน์ของเฮสเพอริดินในส้ม ที่มีส่วนช่วยในการลดโคเลสเตอรอลและความดัน ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาสนใจดื่มน้ำส้มมากขึ้น