สมรภูมิ ‘ค้าส่ง’ เดือด ‘แม็คโคร-โก โฮลเซลล์’ ชิงปักธงทำเลทอง

14 เม.ย. 2567 | 02:40 น.

2 บิ๊ก “แม็คโคร-โก โฮลเซลล์” ไล่บี้ปักหมุดชิงทำเลทอง สาดงบผุดสาขา สร้างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้า B2B-B2C ล่าสุดประชันหน้ากรุงเทพฯโซนเหนือ จับตา “CJx” ของเจ้าพ่อคาราบาว กรุ๊ป ซุ่มใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เปิดแล้ว 4 สาขาทั้งที่นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี

สมรภูมิธุรกิจค้าส่งปี 2567 ร้อนแรงยิ่งกว่าปีไหนๆ เมื่อ “แม็คโคร” ผู้ครองตลาดมายาวนานประกาศแนวรบกับ “โก โฮลเซลล์” (GO Wholesale) ผู้ท้าชิงที่ต่างงัดกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าเต็มสูบ ยิ่งตลาดมีการแข่งขันสูง “การขยายสาขา” กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อดึงดูดลูกค้า เพิ่มยอดขาย และรักษาฐานลูกค้า

ย้อนไปปี 2566 ธุรกิจค้าส่งเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีผู้ท้าชิงตบเท้าเข้าตลาดอย่าง “โก โฮลเซลล์” ภายใต้การบริหารของ “เซ็นทรัล รีเทล” ที่นำร่องเปิดสาขาแรกในย่านศรีนครินทร์ นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ภาคธุรกิจต่างเข้ามาจับจองกันมากมาย แม้จะรู้ว่า “แม็คโคร” ครองตลาดในย่านนี้อยู่

ฉายภาพให้เห็นว่าศึกชิงทำเลทองนั้นเกิดขึ้นให้เห็นจนชินตาในแวดวงธุรกิจ ตามด้วยต้นปี 2567 ที่ผ่านมา 2 ยักษ์ใหญ่ต่างเปิดศึกชิงกำลังซื้อฝั่งธน ย่านการค้าสำคัญ ที่ยังคงขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาลงทุนของโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า แหล่งช้อปปิ้ง และคอนโดมิเนียม มีโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ขยายจากฝั่งกรุงเทพฯ ทั้งสายสีนํ้าเงินและสายสีทอง

สมรภูมิ ‘ค้าส่ง’ เดือด ‘แม็คโคร-โก โฮลเซลล์’ ชิงปักธงทำเลทอง

ซึ่ง “แม็คโคร” พลิกโฉมสาขาบางบอน เพิ่มไลน์อัพกลุ่มสินค้าอุปโภค (non-food) รองรับคนรุ่นใหม่ ทันทีที่ “โก โฮลเซลล์” ประกาศแผนลงทุนเปิดสาขาพระราม 2 เจาะกลุ่มผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ร้านค้า ด้วยสินค้ากว่า 2 หมื่นรายการ

ล่าสุดกับศึกชิงกำลังซื้อกรุงเทพฯ ตอนเหนือ “โซนรังสิต” ย่านเศรษฐกิจสำคัญ ที่มีกลุ่มลูกค้านักศึกษา มหาวิทยาลัย ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม เมื่อ “แม็คโคร” ที่ซุ่มรีโนเวทสาขา “รังสิต” ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี เปิดตัวโฉมใหม่ในวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ “โก โฮลเซลล์” เปิดสาขาที่ 6 “รังสิต” อย่างเป็นทางการ

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลในการพลิกโฉม “แม็คโคร สาขารังสิต” ที่เปิดบริการมานานกว่า 30 ปีในครั้งนี้ว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยขยายพื้นที่จำหน่ายอาหารสดให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพิ่มแนวคิดใหม่ของสินค้ากลุ่มเบเกอรี่ รวมถึงกลุ่มสินค้าอุปโภค (Non-food) ให้มีความหลากหลายมากกว่า 2 หมื่นรายการ รองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

สมรภูมิ ‘ค้าส่ง’ เดือด ‘แม็คโคร-โก โฮลเซลล์’ ชิงปักธงทำเลทอง

“โซนรังสิต ปทุมธานี เป็นย่านเศรษฐกิจที่มีกำลังซื้อคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ที่มาอาศัยและศึกษาในสถานศึกษาชั้นนำในย่านดังกล่าว ทำให้ย่านนี้กลายเป็นทำเลในการอยู่อาศัยของประชากรเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ร้านอาหารหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก สะท้อนถึงกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้แม็คโครดำเนินธุรกิจกว่า 34 ปี ในปี 66 มีสาขาทั่วประเทศ 164 สาขา โดยในปี 67 วางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 13 สาขา ด้วยงบประมาณกว่า 13,100-14,100 ล้านบาท แม็คโครลุยกลยุทธ์ขยายสาขาเชิงรุก เจาะตลาดชานเมือง แม็คโครมีแผนขยายสาขาเพิ่มเป็น 177 แห่ง ภายในสิ้นปี 2567 มุ่งเน้นพื้นที่ชานเมือง จับกลุ่มลูกค้าครอบครัว โดยมั่นใจว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้า และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเสริมบริการเดลิเวอรี่ ดึงดูดลูกค้าด้วยโปรโมชัน สินค้าคุณภาพ

นอกจากนี้ แม็คโคร ชูรูปแบบ ‘Hybrid Wholesale’ ลงสมรภูมิชิงส่วนแบ่ง เพิ่งเปิดสาขาที่ 3 หวังตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ จุดเด่นของโมเดล Hybrid Wholesale คือ การผนึก แม็คโคร-โลตัสมอลล์ แล้ว จึงเกิดโมเดลธุรกิจในคอนเซ็ปต์ “Hybrid Wholesale” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นห้างโฉมใหม่ที่เป็นมากกว่าการขายส่ง ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้ทั้งความต้องการด้านวัตถุดิบและไลฟ์สไตล์ในที่เดียว

ฟากผู้ท้าชิงอย่าง “โก โฮลเซลล์” ที่ประกาศเป็นหมุดหมายใหม่ให้กับลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจโดยมี นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ลูกหม้อเก่าแม็คโคร เป็นแม่ทัพขับเคลื่อน พา “โก โฮลเซลล์” ในช่วงระยะเวลาเพียง 3 เดือนเศษ

สามารถปูพรมขยายสาขาได้แล้ว 5 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เน้นพื้นที่เขตชานเมือง จับกลุ่มลูกค้าครอบครัว ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยทุกสาขามีขนาดพื้นที่ประมาณ 7,000-8,000 ตารางเมตร และสินค้ากว่า 2 หมื่นรายการ และมีสมาชิกแล้วกว่า 2 แสนราย ในปี 2567 วางแผนขยายสาขา 7 สาขา

สมรภูมิ ‘ค้าส่ง’ เดือด ‘แม็คโคร-โก โฮลเซลล์’ ชิงปักธงทำเลทอง

โดยช่วงกลางปี 2566 โก โฮลเซลล์ประกาศแผนธุรกิจบุกตลาดค้าส่ง ทุ่มงบลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท เปิด 50 สาขา และตั้งเป้ารายได้ 6 -7 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี ปัจจุบันกำลังเดินหน้าสยายปีกในกรุงเทพและต่างจังหวัด ตามยุทธศาสตร์ที่ประกาศไว้

นางสุชาดา ยังคาดการณ์ว่า “ตลาดค้าส่งในประเทศไทย ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ที่ยังมีตัวเลือกไม่มากนัก โก โฮลเซลล์ มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จ โดยนำเสนอสินค้าที่หลากหลายครบครัน ในราคาที่แข่งขันได้ พร้อมบริการที่สะดวกรวดเร็ว และเทคโนโลยีที่ทันสมัย”

ขณะที่การรุกเจาะตลาดกรุงเทพฯโซนเหนือ ด้วยการตัดริบบิ้น “สาขารังสิต” ซึ่งเป็นสาขาที่ 6 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีขนาดพื้นที่กว่า 1 หมื่นตร.ม. จำนวนสินค้ากว่า 2 หมื่นรายการ รวมทั้งแผนกอาหารสด ขนาดใหญ่ ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภคจากในไทยและทั่วโลก มุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่กลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการ เป็นหนึ่งในแผนงานที่วางไว้

ซึ่งที่นี้ยังมี “Gofe” จะมีพื้นที่ร้านอาหาร รองรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วยมุมอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ทั้ง อเมซอน, อานตี้ แอนส์ และร้านชากับ “ยอดชา” เข้ามาเปิดให้บริการ พร้อมจัดทำมุมเวิร์คชอป ให้คำแนะนำการทำธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการอย่างครบวงจร

ดีกรีการแข่งขันของธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ยังระอุได้อีก เมื่อ “ซีเจ” หนึ่งในแบรนด์ค้าปลีกของ “เสถียร เสถียรธรรมะ” เจ้าพ่อคาราบาว กรุ๊ป ซุ่มเปิดตัว “CJx” ร้านค้าส่งผสมค้าปลีก ไปแล้ว 4 สาขาทั้งที่ในนครปฐม สมุทรสาครและราชบุรี แบบกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ซึ่งซีเจ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้อยู่แล้ว คงต้องจับตาดูต่อไป ว่าจะได้ฤกษ์สยายปีกเข้ากรุงเมื่อใดต่อไป

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,983 วันที่ 14 - 17 เมษายน พ.ศ. 2567