NEO ฟาดกำไร 840 ล้านบาท ลุยแตกไลน์สินค้าผู้สูงอายุครั้งแรก
NEO ปิดฉากปี 66 กำไรสุทธิ 840 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง น้ำยาซักผ้า-โลชั่น บุกตลาดผู้สูงอายุครั้งแรก
นายสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคปี 2567 มีแนวโน้มเริ่มขยายตัวดีขึ้นหลังจากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวและกลับมาเติบโตอยู่ในระดับก่อนช่วงก่อน COVID-19 ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยออกมาตรการต่างๆ เพื่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอย อาทิ มาตรการลดค่าครองชีพ, Easy e-Receipt ฯลฯ และคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จะส่งผลให้อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยปี 2566NEO ทำรายได้รวม 9,484 ล้านบาท เติบโต 14.3% กำไรสุทธิ 840 ล้านบาท เติบโต 47.6% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากสินค้าหลัก ทั้งผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม โรลออน และสินค้าอื่นๆ ที่เติบโตถ้วนหน้าในทุกช่องทางจำหน่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ล่าสุด NEO ผู้ผลิต D-nee ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “ดีนี่ ดีลักซ์” เอาใจวัยซิลเวอร์ ส่ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อผู้สูงวัย ทั้งผลิตภัณฑ์ "ซักผ้า ดีนี่ ดีลักซ์" และ "โลชั่น ดีนี่ ดีลักซ์" เป็นครั้งแรก
นางศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เรามีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ราว 72% ของตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็ก และขายดีเป็นอันดับหนึ่งในประเทศเวียดนาม โดยนี้ถือเป็นครั้งแรกที่หันมาจับกลุ่มผู้สูงวัย เนื่องจากไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ หรือมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด และคาดการณ์ว่า กลุ่มผู้สูงอายุจะกลายมาเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่เลือกแตกไลน์เป็นโลชั่นด้วยเนื่องจาก ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคนิยมกล้าทดลองใช้
จากข้อมูลอินไซด์ของผู้บริโภคกลุ่ม SILVER AGE พบว่า ผู้ใหญ่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวก็เปลี่ยนแปลงไป ผู้สูงวัยหลายๆ คนหันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก แบรนด์ดีนี่จึงเห็นโอกาส และต้องการให้กลุ่มลูกค้าสูงวัยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
สำหรับแผนลงทุนสินค้าใหม่จะเน้นทำการตลาดออนไลน์เป็นหลัก รวมถึงแพลตฟอร์มต่างๆ อีกทั้งเพื่อสร้างการรับรู้ของสินค้าใหม่จะมีการเซทตัวอย่างสินค้าให้ผู้บริโภคได้ดูก่อน และอาจจะมีพรีเซนเตอร์ในอนาคต
ส่วนกลยุทธ์ปีนี้จะมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่านการทำวิจัยตลาดเพื่อเข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพเทียบเท่าระดับสากลและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว