ฮึดอีกรอบ กลุ่มทุนมาเลย์ ทุ่ม 500 ล้านพลิกโฉม “โชว์ดีซี” สู่ “BRAVO BKK Mall”

นับจากเปิดบริการในปี 2560 “โชว์ดีซี” ต้องเผชิญกับวิกฤตต่างๆมากมาย แม้จะมีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์หลายรอบ แต่ที่สุดก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์นักช้อปทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้  แต่ล่าสุด “โชว์ดีซี” ประกาศรีแบรนด์อีกครั้ง ภายใต้การบริหารของกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่จากมาเลเซีย

ด้วยการทุ่มงบลงทุน 500 ล้านบาทรีแบรนด์ “SHOW DC Mall” ให้เป็น “BRAVO BKK Mall”  ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Fit by Day Fun by Night” เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ส่งเสริมสมดุลชีวิตการทำงานและเป็นพื้นที่ผสมผสานความเป็นอยู่ที่ดีผ่านประสบการณ์ที่พอดีและสนุกสนาน

นายโกห์ ซู ซิง ผู้บริหาร BRAVO BKK Mall กล่าวว่า Bravo BKK Mall เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท Bon Group ซึ่งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรและประสบความสำเร็จระดับโลก ทั้งในอาบูดาบี เวียดนาม ไทยและมาเลเซีย อาทิ Gurney Plaza - Penang shopping mall และThe Estate - Bon Estate flagship high-end condo

“กลุ่มบริษัท Bon Group เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยที่มีชาวต่างชาติเข้ามาพำนักอาศัยหรือเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่ห้างสรรพสินค้าในไทยยังมีช่องว่างทางการตลาดให้กลุ่มบริษัท Bon Group เข้ามาเล่นในตลาดนี้

สำหรับการ Re-branding “Show DC Mall” ศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์ในครั้งนี้ จะเกิดขึ้นบนพื้นที่ 80,000 ตร.ม. จำนวน 6 ชั้น ให้เป็น “Bravo BKK Mall” โดยปรับปรุงพื้นที่ด้วยงบ 500 ล้านบาท”

นอกจากนี้ยังมีนายวินัย ศรีชอบธรรม ผู้คร่ำหวอดในแวดวงศูนย์การค้ามาร่วมบริหารอีกด้วย ทั้งประสบการณ์และฝีมือ การันตีได้ถึงการก้าวต่อไปของคอนเซปท์ใหม่ได้อย่างมั่นคง

ทั้งนี้เชื่อว่า ปัจจัยแวดล้อมของ BRAVO BKK Mall ที่มีประชากรประมาณ 575,800 คน มีคอนโด 22,000 แห่ง อยู่ไม่ไกลจากแอร์พอร์ตลิงค์ ถนนเพชรบุรี ทางด่วนศรีรัช และ RCA พื้นที่โดยรอบสามารถจอดรถบัสได้มากกว่า 50 คัน ทำให้มั่นใจได้ว่า BRAVO BKK Mall ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Fit by Day Fun by Night” จะเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว

โดยไฮไลท์ของ BRAVO BKK Mall  ประกอบไปด้วย

Fit by Day : ความสนุกสนานภาคกลางวัน ภายในห้างสรรพสินค้าจะมีศูนย์รวมอุปกรณ์กีฬาและกิจกรรมครบวงจรในที่เดียว ซึ่งจะจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับกีฬาทุกประเภท ร้านจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟ สนามกีฬา-สนามกอล์ฟจำลอง พื้นที่ส่วนกลางยังถูกออกแบบให้มีความทันสมัย

Fun by Night : ความสนุกสนานภาคกลางคืน ด้วยศูนย์ดนตรีและความบันเทิง ห้องรับรอง สปอร์ตบาร์ ไนท์คลับ การแสดงดนตรีสด ฯลฯ ตอบรับความต้องการนักท่องราตรี

โซน Tourist Lounge พร้อมบริการที่ครบครัน เพื่อให้บริการตลอดเวลา พร้อมด้วย Entertainment Hall ที่รองรับหลากหลายความต้องการในรูปแบบการจัดงาน และโซนอาหาร-เครื่องดื่มที่จะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ Bravo BKK Mall ตั้งไว้จะเป็นกลุ่มครอบครัว พนักงานออฟฟิศ อายุระหว่าง 25 - 40 ปี ที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ โดยเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยในไทย 60% เป็นนักท่องเที่ยว 40% กลุ่มเหล่านี้มีไลฟ์สไตล์รักอิสระ ชอบเล่นกีฬา เข้าฟิตเนส และกลุ่ม LGBTQ ที่ต้องการมาพบปะกันยามค่ำคืนด้วย

สำหรับ “โชว์ ดีซี” (SHOW DC) หรือ Show Destination Center ถูกปักหมุดให้เป็น “ศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์สุดหรูครบวงจร” ด้วยเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 9,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 27 ไร่ ใกล้กับถนนพระราม 9 ถือเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่ได้รับความสนใจไม่น้อย เมื่อเปิดทำการในปี 2560 ด้วยโมเดลและแม็กเน็ต ภายใต้คอนเซปท์ ร้านค้า ร้านอาหาร และความเป็น “K-Town” (เมืองเกาหลี) ในช่วงเวลาที่คนไทยกำลังคลั่งไคล้ และเป็นติ่งเกาหลีกับแบบสุดๆ

โดยมีผู้เช่ารายใหญ่ อย่าง “YG Entertainment”  ค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปิน “K-Pop” ดังระดับโลก อย่าง “BIGBANG” (วงบิ๊กแบง) “Psy” (ไซ กังนัมสไตล์) ที่จับจองพื้นที่ 5,000 ตร.ม. บนชั้นดาดฟ้า เพื่อเปิดเป็นศูนย์วัฒนธรรมและความบันเทิงสไตล์ “K-Pop” แต่สิ่งนั้นกลับไม่ทำให้ “โชว์ดีซี” ประสบความสำเร็จ เห็นได้จากทราฟฟิคที่เข้ามาใช้บริการที่ต่ำกว่าเป้าหมาย

แม้ผู้บริหารศูนย์จะพลิกตัว เพิ่มแม็กเน็ตต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดง “องค์บากไลฟ์” หรือ “หิมพานต์ อวตาร” มหัศจรรย์ตำนานวรรณคดีไทยเสมือนจริงในรูปแบบ 4D โดยใช้เทคโนโลยีแสง สี เสียงสุดล้ำแบบโฮโลกราฟฟิค ก็ยังไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการ ทำให้แม็กเน็ตอื่นๆ ต้องทยอยถอยทัพออกไป

ที่สุด “โชว์ดีซี” ขยับแผนอีกรอบเมื่อพลิกโฉมเป็นแหล่งรวมร้านค้า “เอาท์เล็ท” แบรนด์ดังอย่าง  ไนกี้ เอาท์เล็ท, พูม่า เอาท์เล็ท, เอชแอนด์เอ็ม ฯลฯ แต่ก็ดึงนักช้อปได้เพียงบางกลุ่มเท่านั้น ทำให้โชว์ดีซี ก็ยังเงียบเหงาเช่นเดิม และเมื่อต้องเผชิญกับ “โควิด-19” ยิ่งทำให้ตกอยู่ในภาวะวิกฤตซ้ำซ้อน ส่งผลให้ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ทยอยปิดกิจการ