การแข่งขันที่สูงและมีคู่แข่งจำนวนมาก ทำให้ตลาดร้านชาพร้อมดื่มในไทยกลายเป็นตลาด Red Ocean ขณะที่หลายแบรนด์ ขยับไปหาตลาด Blue Ocean ซึ่งเป็นตลาดที่มีคู่แข่งน้อย และแข่งขันในด้านการสร้างคุณค่าและความแตกต่างของแบรนด์ การครีเอทเมนูใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ “แบร์เฮาส์” (BEARHOUSE) หนึ่งในแบรนด์ชานมไข่มุกยอดนิยม ต้องลุกขึ้นมาปรับตัวพัฒนาเครื่องดื่มใหม่ออกสู่ตลาด
นางสาวปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช (ซารต์) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด เจ้าของร้านชานมไข่มุกแบรนด์ไทย “แบร์เฮาส์” (BEARHOUSE) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีเศษที่ผ่านมา แบร์เฮาส์ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปี 2562 ซึ่งเป็นปีแรกที่เปิดตัว มียอดขาย 17 ล้านบาท ต่อมาในปี 2563 ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 82 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มียอดขาย 104 ล้านบาท และในปี 2565 สามารถทำยอดขายได้ 210 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 79%
ในปีนี้บริษัทจึงมุ่งขับเคลื่อนแบรนด์ด้วย Passion ควบคู่ไปกับการขยายสาขาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือเมนูใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน BEARHOUSE มีสาขารวมทั้งสิ้น จำนวน 23 แห่ง ในทำเลทองรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งได้นำร่องเปิดสาขาต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่แห่งแรกที่ จ. นครราชสีมาในปีที่ผ่านมา
ล่าสุด แบร์เฮาส์ เปิดตัวเครื่องดื่มเมนูใหม่ Fruit Tea Series ใน 2 หมวดสินค้าคือ ชาผลไม้นุ่มชีส และชาใสนุ่มชีส โดยกลุ่มที่เป็นเรือธงของ Fruit Tea Series คือ “ชาผลไม้นุ่มชีส” มีให้เลือก 3 รสชาติ คือ ชาพีชลิ้นจี่นุ่มชีส, ชาเนื้อส้มนุ่มชีส และชาเสาวรสมะม่วงนุ่มชีส ด้วยจุดเด่นท็อปปิ้งนุ่มชีส (Noom Cheese) ในราคาแก้วละ 120 บาท
ทั้งนี้แบร์เฮาส์ วางจำหน่ายเมนูชาผลไม้ที่ทานกับชีสมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งในขณะนั้นยังไม่เป็นที่นิยม แต่ปัจจุบันเทรนด์และกระแสตอบรับชาผลไม้มาแรงมาก ๆ เราจึงถือโอกาสต่อยอดเป็นเมนูใหม่ได้ทันที และได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการทำการตลาดออนไลน์ เป็นทำการตลาดแบบ In-Store Marketing ด้วยการตกแต่งร้าน พร้อมทำสื่อขึ้นที่หน้าร้านทุกสาขา
ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชัน เพื่อให้เกิดการ Trail Product ทดลองบริโภคสินค้า ซึ่งแม้ว่าการตลาดแบบใช้โปรโมชันจะทำให้เราแทบไม่ได้กำไรเลย แต่เราอยากให้ทุกคนได้ลอง เพราะมั่นใจว่าเมนูใหม่ของเราอร่อยไม่เหมือนใครจริง ๆ ทานครั้งแรกยังไงก็ต้องอยากกลับมาทานซ้ำแน่นอน
“การเติบโต 79% ในปีที่ผ่านมาถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในตลาดร้านชา ซึ่งมาจากการขยายสาขา พร้อมทั้งการเพิ่มโปรดักส์ไลน์ และเปิดตัวเมนูใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันแบร์เฮาส์ มียอดขายเฉลี่ยวันละ 8,000 แก้ว แบ่งเป็นยอดขายหน้าร้าน (Walk-In) 60% และดิลิเวอรี (Delivery) 40%
ด้านนายอรรถกร รัตนารมย์ (กานต์) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการทั่วไป บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด กล่าวว่า การทำธุรกิจแบบ BEARHOUSE เริ่มต้นมาจากลูกค้า ดังนั้นทุก ๆ คำติชม และแนะนำจากลูกค้า จะถูกนำมาพัฒนาแก้ไข และนำไปสร้างให้เกิดระบบในองค์กร แม้เราจะทำงานเร็วเหมือนบริษัทขนาดเล็ก แต่เราสามารถพัฒนาระบบบริหารงานให้ใกล้เคียงกับบริษัทขนาดใหญ่
มีการวางระบบบัญชี ระบบ HR ระบบเทรนนิ่งอย่างจริงจัง ตั้งแต่เปิดตัวสาขาแรกเรามีเป้าหมายชัดเจนว่าไม่ได้ทำธุรกิจแบบเล่น ๆ ดังนั้นเรื่องเล็ก ๆ ของลูกค้าถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราที่จะนำมาใช้พัฒนาการบริหารจัดการภายในองค์กร โดยวางจุดยืนให้ BEARHOUSE เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมแมส และเป็นตัวเลือกในระยะยาวสำหรับผู้บริโภค