"Peppermint Field"ปรับกลยุทธ์เจาะคนรุ่นใหม่เพิ่มส่วนแบ่งตลาด 3-5%

นางสาวมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ยาดม Peppermint Field (เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์) ภายใต้การผลิตและจัดจำหน่าย โดยบริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการปรับกลยุทธ์การทำตลาด โดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งจะเป้นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของยาดมแบบเดิมให้เป็นสิ่งที่ใช้ได้ในทุกวัน

ทั้งนี้ กลยุทธ์การตลาดในปี 66 นี้ยังได้ผสมผสานการตลาดแบบ Music Marketing  ภายใต้คอนเซ็ปต์ลมหายใจที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีการคัดสรรส่วนผสมที่มีคุณภาพจากธรรมชาติ และกระบวนการผลิตด้วยโรงงานมาตรฐานระดับสากล 

"ต้องการให้ผู้บริโภคยุคนี้นึกถึงยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ในภาพลักษณ์ใหม่ ที่เป็นเหมือนไอเทมคู่กายช่วยเติมความหอม สดชื่น ผ่อนคลาย เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ให้คนไทยได้มีลมหายใจที่มีคุณภาพ และยังสามารถเลือกยาดมให้ตรงกับบุคลิก ความชอบและไลฟ์สไตล์ของตนเอง เพื่อชีวิตที่มีคุณภาพรับมือกับทุกสถานการณ์ได้ในแต่ละวัน"

สำหรับยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ทั้งสองสูตร มีจุดเด่นที่แตกต่างกันชัดเจน คือ ยาดม Peppermint Field มีความหอมอะโรมาติกจากเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ออยล์ และเมนทอล 

ส่วนผสมหลักที่นิยมใช้ในศาสตร์ของกลิ่นบำบัด มีฤทธิ์เย็นช่วยให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายแก้อาการคัดจมูกวิงเวียนศีรษะ 

และยาดม Peppermint Field Black Inhaler (แบล็ค อินเฮเลอร์) จะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึก หอม เข้ม คูล เย็นโล่งจมูก ด้วยยูคาลิปตัส ออยล์ ที่เพิ่มมากขึ้น 2 เท่า มีส่วนช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจผสานเข้ากับกลิ่นความหอมของเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ออยล์ และเมนทอลในหลอดยาดมสีดำทันสมัย 

โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์สามารถดมได้บ่อยไม่แสบจมูก ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ซึ่งยาดม "เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์" ทุกหลอดผ่านกระบวนการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับโลก 

อย่างไรก็ดี บริษัทยังใช้กลยุทธ์การทำตลาดผ่านพรีเซนเตอร์ โดยเลือกพีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร นักร้อง นักแสดงเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ เนื่องจากมองว่ามีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน มีความสามารถรอบด้าน เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องตามแบบใคร เพื่อเป็นตัวแทนของเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ในการถ่ายทอดสื่อสารคาแรคเตอร์ของยาดมทั้งสองสูตร คือ ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ หลอดสีขาว และยาดมแบล็คอินเฮลเลอร์ หลอดสีดำ  

นางสาวมีนา กล่าวต่อไปอีกว่า กลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าว รวมถึงทำการสื่อสารในทุกแพลตฟอร์มแบบรอบทิศทาง 360 องศา ควบคู่กันจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้ 3-5% 

"บริษัทเน้นทุกช่องทางการขายที่เป็นที่นิยมของคนยุคใหม่ โดยการมีพรีเซนเตอร์เป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักจะยิ่งช่วยเสริมทัพให้สามารถทำตลาดได้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านภาพยนตร์โฆษณา ,จิงเกิ้ลพลง ,สปอตวิทยุ ,สินค้าพรีเมียม และงานอีเวนต์ ที่เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศได้โดยตรง”

ด้านภาพรวมของสถานการณ์การเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ ยาดมในไทยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น มีการแข่งขันค่อนข้างมากขึ้น และมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาด โดยในปี 65 ที่ผ่านมา ตลาดยาดมในโมเดิร์นเทรดอยู่ที่ 1,160 ล้านบาท ซึ่งยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เป็นอันดับที่ 2 ของตลาด