สยามพารากอน ปลื้มยอดขายลักชัวรีติดอันดับโลก ยกเครื่องใหญ่รอบ 17 ปี

14 ก.พ. 2566 | 09:15 น.

สยามพารากอนทรานสฟอร์มครั้งใหญ่ในรอบ 17 ปี ทุ่ม 3,000 ล้านบาท ยกระดับแลนด์มาร์คระดับโลก สู่โลกแห่งอนาคต เผยยอดขายปี 65 เติบโตกว่า 50% ปลื้มลักชัวรีแบรนด์ยอดขายเติบโตติดอันดับโลก

สยามพารากอน ประกาศยุทธศาสตร์ตอกย้ำภาพลักษณ์จุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination)  ที่มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง  กับการพลิกโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 17 ปี ยกระดับสู่แลนด์มาร์คระดับโลก พร้อมเผยโฉมใหม่ในกลางปี 67

นางสาวแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลกและยังเป็น showcase ที่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของคนกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี

สยามพารากอน

ทั้งนี้สินค้ากลุ่มลักชัวรีแบรนด์ทุกประเภทได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่โดดเด่นสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ส่งผลให้สยามพารากอนเป็น Destination ของลักชัวรีแบรนด์อย่างแท้จริง   อีกทั้งแบรนด์ดังๆ ได้ทยอยเปิดพื้นที่เป็น “Pop-up Store” เพื่อขาย ลิมิเต็ดคอลเลคชั่นพิเศษเป็นครั้งแรกในเอเชียอยู่เสมอ

สร้างความตื่นตาตื่นใจตอบโจทย์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า และตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้สยามพารากอนยังได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 6 ของสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวเช็คอินสูงสุดในโลกและเป็นสถานที่เดียวในไทยและเอเชียที่ติดอันดับ 1 ใน 10 จากการจัดอันดับของ Facebook Review ในปี 2558  (Global Legendary Landmark)” 

ทั้งนี้ในปี 2565 สยามพารากอนสามารถสร้างรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ เติบโตมากกว่า 50% จากปี 2564 และสูงกว่าปี 2562 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มีจำนวนมากเทียบเท่าก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิค-19  โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มลักชัวรีแบรนด์ที่สามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่สูงตลอดระยะเวลา 3 ปี  สะท้อนจากบรรดาแบรนด์หรูมุ่งหน้าตลาดเมืองไทยเป็นเวทีสำคัญในการเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง 

ส่งผลให้มีความต้องการขยายพื้นที่และขยายสาขามากขึ้น สอดรับกับแผนการลงทุนปรับโฉมใหม่ของสยามพารากอน เพื่อต้อนรับลักชัวรีแบรนด์และแบรนด์ใหม่ๆ อีกนับร้อยแบรนด์ที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List  โดยหลายแบรนด์จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและมีแบรนด์ที่ Exclusive เฉพาะที่สยามพารากอนเท่านั้น เหล่านี้ล้วนตอกย้ำความเป็นเพชรน้ำงามของ Luxury Destination ระดับโลกอย่างแท้จริง

มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ - แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์

“นับตั้งแต่ปี 2564 สยามพารากอนได้เริ่มดำเนินการปรับโฉม ’พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์’  ไปแล้วหลายชั้นซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 นี้  ดังนั้นสยามพารากอนจึงทุ่มงบประมาณเพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงพื้นที่ส่วนศูนย์การค้าทั้งหมด โดยได้เริ่มต้นดำเนินการแล้วเป็นส่วนๆ ตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมา  จะใช้เวลาภายใน 18 เดือนจากนี้ไปและมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2567”

ด้านนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการทรานสฟอร์มสยามพารากอนในครั้งนี้ว่า นโยบายในการทำธุรกิจของเราคือ Collaborate to Win เราเชื่อมั่นในศักยภาพไร้ขีดจำกัดของอีโค่ซิสเต็มที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ที่จะมาร่วมผนึกกำลังเราสร้างธุรกิจให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ  ฉีกกฎและตำราเดิมๆ ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

สยามพารากอนจะไม่ได้เป็นเพียงศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่จะเป็นแพลตฟอร์มเวทีระดับโลก ที่ให้ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายแขนง ทั้งสถาปนิก วิศวกร มัณฑนากร ผู้เชี่ยวชาญ ด้านศิลปะ เทคโนโลยี รวมทั้งผนึกกำลังกับผู้ประกอบการลักซ์ซูรี่แบรนด์ทั่วโลก และผู้ประกอบการคนไทย มาร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) เชื่อมต่อแพลตฟอร์มทั้งบนพื้นที่ โลกกายภาพ (Physical World) โลกดิจิทัล (Digital World) ผ่าน OneSiam SuperApp และโลกเสมือนจริง (Metaverse) เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ     

สยามพารากอน ปลื้มยอดขายลักชัวรีติดอันดับโลก ยกเครื่องใหญ่รอบ 17 ปี   

“สยามพารากอนได้ต้อนรับคนทั่วโลกที่มาเยี่ยมเยือนทุกวัน เราจึงมุ่งหวังที่จะให้สยามพารากอนเป็นสถานที่สร้างคอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก เราจึงทำการศึกษาลงลึกกับกลุ่มลูกค้าที่กว้างที่สุด ให้สามารถตอบสนอง ความเชื่อ ความปรารถนาและความสนใจที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างแต่ตรงใจ ดังนั้นการทรานสฟอร์มสยามพารากอนในครั้งนี้ เราจะสร้างปรากฏการณ์แรกของการเปิดให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสยามพารากอนอีกด้วย 

ดังนั้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ สยามพารากอนจะเปิดพื้นที่สาธารณะ เพื่อรับฟังไอเดียของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติทั่วโลก ผ่านโครงการ Wall of Wonders ในรูปแบบ Interactive Wall ที่ลูกค้าสามารถแนะนำว่า ปรารถนาจะได้เห็นความแปลกใหม่ในรูปแบบใดในสยามพารากอน    โดยจะได้นำความคิดเห็นจากผู้คนทั่วโลกมารังสรรค์พื้นที่ต่างๆ ให้มีความหลากหลายตรงกับความสนใจของผู้คนในแต่ละคอมมูนิตี้ผสานกับเทคโนโลยีที่      ล้ำสมัยที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในมิติต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง  ทั้งนี้จะแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดโครงการ Wall of Wonders ในเร็วๆ นี้” นางมยุรี กล่าว

สำหรับองค์ประกอบสำคัญของ สยามพารากอน – The Next Evolution มีดังนี้

1.จักรวาลใหม่แห่งการใช้ชีวิตสุดล้ำ (Universe of World’s Excellence) สยามพารากอนพลิกโฉมการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘การร่วมกัน รังสรรค์’ หรือ Co-creation & Collaboration กับพันธมิตรผู้มีวิสัยทัศน์เป็นเลิศในทุกอุตสาหกรรม  เพื่อร่วมกันสร้างมหาปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 21  และนำเสนอสิ่งที่โดดเด่นล้ำยุคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ใดในวงการ   ค้าปลีกของโลกอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ยกระดับให้สยามพารากอนเป็นโครงการระดับโลกที่สร้างมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศอย่างแท้จริง

2.ประตูสู่ดินแดนใหม่ที่โลกดิจิทัลบรรจบกับโลกจริง (Gateway to Next Frontier Where Digital World Meets Physical World) สยามพารากอนจะเป็น Co-Creative แพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (New Global Prototype) ในการผสานเชื่อมโยงโลกศูนย์การค้าที่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างที่จับต้องได้  เข้ากับจินตนาการของโลกดิจิทัล และโลกเสมือนจริงได้อย่างกลมกลืนและไร้รอยต่อ  เพื่อนำเสนอรูปแบบการชีวิตในโลกอนาคตแบบเหนือความคาดหมายและมอบประสบการณ์ทางกายภาพที่สอดประสานกับโลกเสมือนจริงที่มีความมหัศจรรย์น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแม็กเนตสำคัญที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมเยือน

3. มิติใหม่แห่งความลักชัวรี (Celebration of Inclusive Luxury) นับตั้งแต่การเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า  17 ปี สยามพารากอนตอกย้ำความเป็นผู้นำครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย  และเป็น Destination ของ Luxury Brand ที่รวมแบรนด์ชั้นนำทุกประเภทสมบูรณ์แบบที่สุด การพลิกโฉมประวัติศาสตร์ในครั้งนี้สยามพารากอนจะรังสรรค์นิยามใหม่ของความลักชัวรีในทุกมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต (Luxury for All)

สยามพารากอน ปลื้มยอดขายลักชัวรีติดอันดับโลก ยกเครื่องใหญ่รอบ 17 ปี

สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ทุกอายุ ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นในด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหาร การเดินทางท่องเที่ยว เทคโนโลยี การเงิน และประสบการณ์ เฉพาะตัวอย่างอื่นๆ ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกในโลกที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงความลักชัวรีได้ในหลากหลายมิติ ของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและสามารถเป็นการให้รางวัลชีวิตได้ในสถานที่แห่งนี้ 

4. ผู้นำแห่งการสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณภาพ (Pioneering Quality Life Experience) ส่วนสำคัญหนึ่งของโครงการทรานสฟอร์มสยามพารากอนครั้งนี้ รวมไปถึงสร้างโมเดลต้นแบบในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ โดยการร่วมสร้างสรรค์กับพันธมิตรออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่ที่จะผสานเอาศิลปะ เทคโนโลยี และธรรมชาติเข้ามาอยู่ในโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทาง เพื่อทำให้โลกใบนี้สะอาด จัดระบบในเรื่องการใช้พลังงานโดยการใช้นวัตกรรมต้นแบบในเรื่องต่างๆ

เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตสู่ความยั่งยืน ยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีและวิถีชีวิตให้กับชุมชนและโลกในรูปแบบเหนือจินตนาการ สามารถใช้เวลาอยู่ในสยามพารากอนได้เสมือนเป็นบ้านหลังที่สองท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ และการควบคุมอุณหภูมิและอากาศที่มีสุขอนามัย รวมทั้งการบริหารก๊าซเรือนกระจกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย 

5.คอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก (The Paragon Community of Global Citizens) การยกระดับอีกมิติของการนำเสนอประสบการณ์เหนือความคาดหมายทั้งในศูนย์การค้าและในโลกดิจิทัล   จะเพิ่มศักยภาพให้สยามพารากอนขยายฐานลูกค้าสู่ Global Citizen ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเป็นการเติบโตด้วยความมั่นคง อย่างยั่งยืน

โดยการสร้างพื้นที่ใหม่ๆเป็น cluster ที่มีสินค้า บริการ และกิจกรรมที่ตรงใจของคอมมูนิตี้ต่างๆ โดยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างคอมมิวนิตี้นั้นๆ ให้สามารถแบ่งปันความคิด ความสนใจ หรือทำกิจกรรมและสร้างงานร่วมกันค้นพบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างธุรกิจร่วมกันได้จากทุกที่บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

นอกจากนี้ สยามพารากอนกำลังพัฒนาคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่อีกหลายรูปแบบ เพื่อนำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยและครั้งแรกในโลก ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไฮไลต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโครงการ ทรานสฟอร์มสู่วิถีแห่งโลกอนาคต

“จากผลการวิจัยทุกครั้งพบว่า สยามพารากอนเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด  และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คนกรุงเทพฯ ทุกเจนเนอเรชั่นรู้สึกใกล้ชิดและคุ้นเคย ความผูกพันที่ยาวนานกับลูกค้าและกับผู้มาเยือนจากทั่วโลกตลอดช่วงเวลาเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา คือ อัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของสยามพารากอน 

ดังนั้นในขณะที่เราเดินหน้าการทรานสฟอร์มครั้งสำคัญ ไปสู่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศ ที่เต็มไปด้วยคำมั่นในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ซึ่งน่าตื่นเต้นมากมาย แต่เราจะยังคงดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการดูแลและการต้อนรับที่อบอุ่นเสมือนบ้านหลังที่สองของลูกค้าของเรา อันเป็นหลักสำคัญที่ทำให้สยามพารากอนเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีโครงการใดเสมอเหมือนตลอดมา”  นางสาวแคโรไลน์ กล่าว