เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
เมกะเทรนด์ Health-Wellness โตก้าวกระโดดหลังโควิด หลังคนไทยกลับมาใช้ชีวิตรีบเร่งแต่ยังต้องการสุขภาพที่ดีสู้โรคและมลพิษ บวกแรงหนุนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพฟื้นตัว "ฉมา" สบช่องต่อเกมธุรกิจยา อาหารเสริม และสมุนไพร ผุด “ฉมาสหคลินิก” ชูไฮไลท์รักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แบบผสมผสานออกแบบเฉพาะกับอาการของแต่ละบุคคล
นางสาวปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท จำกัด เปิดเผยว่า ข้อมูลของ GWI เคยคาดการณ์มูลค่าตลาด Health-Wellness ทั่วโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการเติบโตราวๆ 180 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.9 ล้านล้านบาท โดยกลุ่มที่มีมูลค่าสูงสุด ได้แก่ 1. การดูแลตัวเอง ความสวยงาม การชะลอวัย 2. การทานอาหารเพื่อสุขภาพ หรือทานอาหารเป็นยา 3. การออกกำลังกายและกายภาพ 4. สาขาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่คาดการณ์ว่าจะโตเฉลี่ยสูงถึง 20.9% ภายในปี 2568 และกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใช้จ่ายต่อหัวมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปกว่า 58 % เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดประเทศไทย
เทรนด์การรักสุขภาพมีแนวโน้มโตก้าวกระโดดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากคนส่วนใหญ่ตระหนักว่าสุขภาพดีแบบองค์รวมช่วยให้ปลอดโรคมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ และหลังวิกฤตโควิด-19 ผู้คนออกไปใช้ชีวิตทำงานได้ตามปกติ ออกเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วโลก ใช้ชีวิตเต็มที่พร้อมกับความเร่งรีบ จนไม่สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างที่ควรเป็น ขาดสมดุล ส่งผลให้เกิดความต้องการบริการด้านดูแลสุขภาพแบบทางเลือก เข้ามาเป็นส่วนช่วยให้การดูแลสุขภาพทั้งในรูปแบบ Naturopathy หรือ ธรรมชาติบำบัดที่ใช้สมุนไพร การนวดแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลรักษาสุขภาพ
ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายใต้แบรนด์ “ฉมา ฟาร์ม” และ “ฉมา เฮิร์บ” และได้รับผลตอยรับอย่างมาก ในปีนี้ บริษัทวางแผนต่อยอดไลน์ผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพเพิ่ม “ฉมาสหคลินิก” โดยเน้นไปที่การดูแลรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แบบผสมผสานสำหรับโรคของแต่ละบุคคล พร้อมให้คำแนะนำในเรื่องอาหารเป็นยา การปรับพฤติกรรม การจ่ายยาสมุนไพร การปรับสมดุลร่างกาย น้ำผักบำบัด เพื่อการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล
บริษัทได้วางตำแหน่งของ “ฉมาสหคลินิก" ให้เป็นคลินิกทางเลือกเจาะกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนที่ชื่นชอบแนวทางการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด อาหารเป็นยา และสุดท้ายกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งนับเป็นโอกาสในการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเปิดประเทศทำให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและรัฐบาลยังมีนโยบายขับเคลื่อนไทยให้เป็นฮับด้านสุขภาพของภูมิภาค
"คลินิกของเราสามารถดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยการออกแบบการดูแลและรักษาได้แบบเฉพาะรายบุคคล เหมือนเป็นหมอประจำบ้านให้กับทุกคน สามารถขอปรึกษาได้ทุกกลุ่มอาการ มีการดูแลอย่างเป็นองค์รวมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ”
1. ตรวจรักษา ตรวจสมุฏฐานธาตุของแต่ละบุคคล จ่ายยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพรออร์แกนิค น้ำผักบำบัด วิตามินบำบัดและวิธีการดูแลรักษาอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับของแต่ละบุคคล
2. ธรรมชาติบำบัดให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล ด้วยยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์จาก “ฉมาฟาร์มออร์แกนิค” มีการปรับสูตรชุดผักและยาสมุนไพรที่ในการดูแล รักษา โดยทีมแพทย์
3. ปรับสมดุลกระดูกและกล้ามเนื้อ การประเมินและวางแผนรักษากลุ่มโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยใช้การรักษาด้วยการนวด คลึง กด การยืดเหยียด การปรับดึงดัดกระดูกและข้อต่อ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมกับอาการและกลุ่มโรคของแต่ละบุคคลนั้น ๆ
4. การชะลอวัย ผิวพรรณ และความงาม มุ่งเน้นให้ผู้รับบริการสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกอย่างยั่งยืน ที่เริ่มจากการรับประทานสิ่งดีต่อสุขภาพ สะอาด และปลอดภัย และยังมีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและความงามช่วยตรวจรักษาและวางแผนการชะลอวัยให้เหมาะกับสุขภาพของแต่ละบุคคล
5. วิตามินบำบัด (IV therapy) เพื่อสุขภาวะที่ดี และการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยบริการการให้วิตามินบำบัดทางหลอดเลือดโดยทีมแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ เป็นการให้วิตามินสูตรเฉพาะของทางคลินิกที่เหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล