"ซัคเซสมอร์" ขยายธุรกิจลิสซิ่งเปิดขายรถยนต์มือสอง

28 ต.ค. 2565 | 12:39 น.

"ซัคเซสมอร์" ต่อเกม“ธุรกิจลิสซิ่ง”แบบ “One Stop Leasing Company” จับมือพาร์ทเนอร์ออนไลน์แพลตฟอร์ม เปิดขายรถยนต์มือสองทั้งไทยและต่างประเทศให้กลุ่มสมาชิก MLM 1.6 แสนราย พร้อมเปิดสาขาใหม่ฟิลิปปินส์เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าหนุนรายได้ทั้งปีเข้าเป้า 20%

หลังที่ บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ “SCM” เปิดให้บริการ “ธุรกิจลิสซิ่ง” ภายใต้ชื่อ “บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการเสริมศักยภาพด้านการให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้น   ล่าสุดผู้บริหาร ร่วมลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท คาร์ ฮีโร่ จำกัด (Car Hero) รวมถึง Cars24 และ Car-on ตามลำดับ เพื่อการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ของ “จัดให้ ลิสซิ่ง” ภายใต้เป้าหมายการให้บริการ “One Stop Leasing Company” ที่รองรับความต้องการของกลุ่มสมาชิก MLM ที่มีอยู่กว่าในปัจจุบัน 1.6 แสนราย

"ซัคเซสมอร์" ขยายธุรกิจลิสซิ่งเปิดขายรถยนต์มือสอง
นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (“SCM”) เปิดเผยว่า สำหรับการร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการรถที่ดีมีคุณภาพ, ประกันภัยรถยนต์ พร้อมแพคเกจสุดคุ้ม ราคายุติธรรม ให้ลูกค้าที่ซื้อรถผ่าน “จัดให้ ลิสซิ่ง”  รวมถึงโปรโมชั่นจากพันธมิตรอีกมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ “Feel' in Good” ที่ครบวงจรให้กับลูกค้า และสร้างโอกาสการเติบโตไปด้วยกัน

 

 

ส่วนแผนการขยายธุรกิจในส่วนของ Core Business “ MLM” ไปยังต่างประเทศนั้น  CEO “SCM” ได้มีการอัปเดตว่า ดำเนินการจัดตั้งบริษัทฯ ในประเทศฟิลิปปินส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตกแต่ง ควบคู่ไปกับการขอใบอนุญาตนำเข้าและจำหน่ายสินค้า รวมถึงกระบวนการต่างๆ  และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 2565 

 


นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าไปในประเทศอื่นๆ  ที่บริษัทไม่มีสำนักงานตั้งอยู่ ในลักษณะของการหาตัวแทนจำหน่าย (ขายแบบปกติ ไม่ใช่ MLM)  ซึ่งอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับคู่ค้าหลายราย  และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ 

“จากแผนทำการตลาดเชิงรุกอย่างชัดเจน โดยจะเริ่มเห็นแคมเปญ  รวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ ออกสู่ตลาดในวงกว้าง ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ย.เป็นต้นไป บริษัทฯ คาดหวังผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นจากแผนการตลาดเชิงรุกที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า จะช่วยทำให้เป้าหมายการเติบโตเป็นไปตามที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ในระดับ  20%”