ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากต้นทุนค่าน้ำมันในการขนส่ง และต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรับฝากและนำจ่าย ณ ที่อยู่ สำหรับบริการขนส่งและกระจายผลผลิตทางการเกษตรประเภทผลไม้สด ต้นไม้หรือกล้าพันธุ์ไม้ เฉพาะแบบเหมา Roll Pallet สูงขึ้นกว่าบริการอื่นๆ
ซึ่งที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยคิดค่าบริการการเข้ารับฝากถึงที่และนำจ่ายถึงที่อยู่ผู้รับแบบเหมา Roll Pallet เพียง 100 บาท/เที่ยว เพื่อตอบโจทย์ให้แก่เกษตรกรที่ต้องการส่งผลผลิตจำนวนมากกว่าการบรรจุลงกล่อง แต่เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายที่ไปรษณีย์ไทยต้องรับมาอย่างต่อเนื่อง
และเพื่อรักษามาตรฐานการจัดส่ง รวมถึงคุณภาพในการให้บริการได้ จึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มค่าบริการเข้ารับฝากถึงที่และนำจ่ายถึงที่อยู่ผู้รับแบบเหมา Roll Pallet เป็น 500 บาท/เที่ยว ซึ่งปรับเฉพาะสินค้าประเภทผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้สด ต้นไม้ และกล้าพันธุ์ไม้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ อัตราค่าบริการดังกล่าวไม่รวมค่าขนส่งด้วยมาตรฐานบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย โดยมีค่าส่งเหมาต่อ Roll Pallet เริ่มต้นที่ 800 บาท
ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการเสริมด้วยรถยนต์เหมาคัน ซึ่งจุสินค้าได้เต็มคันรถไม่จำกัดน้ำหนักให้ผู้ที่ต้องการฝากส่งจำนวนมากไปยังปลายทางเดียวกัน โดยอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทางในแต่ละพื้นที่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ บริการขนส่งผลไม้แบบเหมากล่องยังคงราคาเดิม เริ่มต้น 3 กิโลกรัม 60 บาท และส่งได้สูงสุด 20 กิโลกรัม ในราคา 230 บาท