บอร์ดอีอีซี คลอด “EEC Visa” ยาว 10 ปี ดึงลงทุนเสียภาษี 17%

24 พ.ย. 2566 | 06:08 น.

บอร์ดอีอีซี ไฟเขียว EEC Visa ครั้งแรก Work permit อัตโนมัติ เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ อัตราคงที่ 17% อายุ VISA สูงสุด 10 ปี ตามระยะเวลาตามสัญญาจ้าง ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เริ่ม 1 มกราคม 2567

วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ (EEC Visa) ซึ่งเป็นครั้งแรกของการจัดสิทธิประโยชน์ภายใต้กฎหมายของสำนักงาน EEC ให้กับนักลงทุน

โดยอนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาลงทุนในพื้นที่อีอีซี สามารถนำคนต่างด้าวเข้ามาภายใต้ EEC Visa แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้ 

  1. ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประเภท Specialist : EEC Visa “S” 
  2. ผู้บริหาร ประเภท Executive : EEC Visa “E” 
  3. ผู้ชำนาญการ ประเภท Professional : EEC Visa “P” 
  4. คู่สมรสและผู้ติดตาม ประเภท Other : EEC Visa “O” 

สำหรับรับสิทธิประโยชน์ที่สำคัญๆ ได้แก่ ได้รับ EEC Work permit อัตโนมัติ เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ อัตราคงที่ 17% อายุ VISA สูงสุด 10 ปี ตามระยะเวลาตามสัญญาจ้าง ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สามารถรายงานตัวผ่านระบบออนไลน์ ใช้ช่องทางพิเศษ (Fast track) ณ สนามบินนานาชาติทั่วประเทศไทย โดยเริ่มขอรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป 

พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ โดยอยู่ระหว่างจัดทำร่างประกาศ กพอ. เพื่อกำหนดสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการกิจการ มี 5 หลักการที่สำคัญ  ได้แก่ การสร้างนวัตกรรมการให้บริการภาครัฐ การเจรจาสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ การพิจารณาให้สิทธิประโยชน์ การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงาน และการติดตามตรวจสอบ 

ทั้งนี้ ในการเจรจาสิทธิประโยชน์กับผู้ประกอบกิจการ คณะกรรมการจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ แผนการลงทุน รวมถึงระยะเวลาเริ่มการลงทุนหรือประกอบกิจการ ความสำคัญของกิจการต่อ Supply chain และ Value chain มูลค่าเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบกิจการ การใช้ทรัพยากรในประเทศ ระดับเทคโนโลยีที่ใช้ในการประกอบกิจการ การถ่ายทอดความรู้ และการช่วยเหลือชุมชนโดยรอบ

ทั้งนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบ (ร่าง) แผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2566 – 2570 มีแนวทางการพัฒนา 5 แนวทาง ประกอบด้วย 

1.ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการแห่งอนาคต

2. เพิ่มประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค

3.ยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 

4.พัฒนาเมืองให้มีความทันสมัย น่าอยู่อาศัยและเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ 

5.เชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนสู่ความยั่งยืนของชุมชน 

ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายให้เกิดจำนวนเงินการลงทุนจริงในพื้นที่ ระหว่างปี 2566 - 2570 เพิ่มขึ้น รวม 500,000 ล้านบาท (เฉลี่ย 100,000 ล้านบาทต่อปี) ผลิตภัณฑ์มวลรวมของพื้นที่ อีอีซี (GPCP EEC) ขยายตัว 6.3% พร้อมเป็นต้นแบบพัฒนาเชิงพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบ เป็นเป้าหมายการเข้ามาลงทุนและอยู่อาศัยของประชากรและนักลงทุนทั่วโลก