‘ณพ ณรงค์เดช’ ควง ‘คุณหญิงกอแก้ว’ แถลงปมหุ้นวินด์ ยืนยันความบริสุทธิ์ 

02 พ.ย. 2566 | 08:20 น.

‘ณพ ณรงค์เดช’ ควง ‘คุณหญิงกอแก้ว’ เปิดบ้านแถลงข่าว ปมซื้อขายหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) เปิดคำตัดสิน 5 ศาลชนะรวด ยืนยันความบริสุทธิ์ ยอมรับเรื่องทั้งหมดเป็นปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว 

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นายณพ ณรงค์เดช พร้อม นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ ที่ปรึกษากฎหมาย และ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา พร้อม อภิวุฒิ ทองคำ ที่ปรึกษากฎหมาย เปิดบ้านแถลงข้อมูลสำคัญโต้กลับทุกข้อกล่าวหาทั้ง คดีครอบครัว และคดีหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) ยืนยันความบริสุทธิ์ เนื่องจาก 5 ศาลมีคำพิพากษาชนะคดีรวดตลอด 6 ปี

คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา กล่าวยืนยันความบริสุทธิ์ว่า ตนเองไม่ได้โกงใครและไม่ได้ปลอมลายเซ็นใคร เรื่องนี้เริ่มต้นจากการให้ความช่วยเหลือ นายณพ ซึ่งเป็นลูกเขย และพ่อของหลานทั้งสองคน ซึ่ง ณ ขณะนั้นไม่มีใครให้ความช่วยเหลือได้ หากตนเองไม่ช่วย บริษัทนี้อาจล้มละลายได้ เพราะธนาคารอาจจะไม่อนุมัติสินเชื่อ

“ที่ผ่านมามีการให้ข่าวที่ไม่ครบถ้วน ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด ดิฉันอายุ 70 ปีแล้ว ชีวิตครอบครัวอยู่อย่างสงบสุข ใช้ชีวิตสบาย ๆ ไม่จำเป็นต้องการอะไรของใคร ณพ มาขอความช่วยเหลือดิฉันจึงตัดสินใจช่วย แต่มีเงื่อนไขว่าแม่จะไม่ออกหน้าให้หาคนที่เชื่อใจมาใส่ชื่อแทน”

ทั้งนี้เมื่อวินด์พ้นวิกฤต ทำรายได้ปีละหลายพันล้านบาทก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น เชื่อว่ามีหลายฝ่ายต้องการอยากได้หุ้นวินด์ ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่พูดความจริงจนกลายเป็นคดีความ แต่ท้ายที่สุดศาลก็ตัดสินออกมาแล้วว่าตนเองไม่ได้โกง และไม่ได้ปลอมลายเซ็นใคร

“ถ้าลงทุนก็ต้องได้หุ้น ถ้าม่ลงทุนก็ไม่มีสิทธิ์ได้ แต่พอไม่ลงทุนแล้วอยากได้หุ้น ก็สร้างเรื่องเบี่ยงเบนต่าง ๆ โดยหลักฐานเรามีครบ ดิฉันขอให้สังคมลองย้อนกลับไปมองในอดีตตอนที่วินด์ยังไม่มีราคา ไม่เห็นมีใครอยากได้หุ้นเลย ล่าสุดศาลมีคำพิพากษาออกมาทั้ง 3 ศาลว่าดิฉันไม่ได้โกงและไม่ได้ปลอมลายเซ็นใครอย่างที่กล่าวหา”

‘ณพ ณรงค์เดช’ ควง ‘คุณหญิงกอแก้ว’ แถลงปมหุ้นวินด์ ยืนยันความบริสุทธิ์   

เคลียร์ปมครอบครัวณรงค์เดช

นาย ณพ ณรงค์เดช กล่าวว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาเลือกที่จะไม่ตอบโต้ เพื่อรอศาลพิพากษาให้ครบทุกคดี จึงออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในครั้งเดียว เพื่อให้เกิดความชัดเจน พร้อมพิสูจน์ความจริง ตอบทุกข้อกล่าวหาที่ถูกนำไปเบี่ยงเบนเป็นประเด็น โดยไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด

ทั้งนี้ยืนยันว่า การลงทุนในหุ้นวินด์ฯ เป็นการลงทุนส่วนตัวของตนเองไม่เกี่ยวกับครอบครัว แม้มีการหยิบยืมเงินจากครอบครัวไปบ้าง และยังคงค้างชำระอยู่หลายร้อยล้านบาท แต่มีการคืนเงินแล้วบางส่วนพร้อมดอกเบี้ยโดยมีเอกสารกู้ยืมชัดเจน ดังนั้น จึงไม่ใช่การลงทุนร่วมกันแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีการกู้เงินจาก KPN Land และจัดหามาจากช่องทางอื่น ๆ

“เรื่องที่เสียใจที่สุดคือการที่ คุณพ่อ (ดร.เกษม ณรงค์เดช) ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพียงเพราะมีคนต้องการผลประโยชน์จากหุ้นวินด์ฯ ผมและลูก ๆ ไม่ได้รับโอกาส ให้เข้าไปพบคุณพ่อตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะความขัดแย้งของพี่น้อง แม้จะพยายามเข้าพบหลายรอบแล้วก็ตาม ซึ่งยังคงเฝ้ารอโอกาสที่จะได้เข้าพบคุณพ่อเสมอ”

ปัจจุบันนี้ ธุรกิจที่มี 3 พี่น้อง กฤษณ์ ณพ และกรณ์ ณรงค์เดช เป็นผู้ถือหุ้นร่วมกันนั้น มีเพียง บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ เท่านั้น โดยถือหุ้นคนละ 1 ใน 3 จนกระทั่งเกิดความขัดแย้งกันในเรื่องหุ้น วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง ณพ จึงถูกกันออกมา ไม่ได้ร่วมบริหารจัดการหรือร่วมตัดสินใจใด ๆ รวมทั้งการที่ บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นของ บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) ด้วย

โดยธุรกิจส่วนตัวของ ณพ ณรงค์เดช ยังมีสถาบันดนตรี KPN ซึ่งเป็นธุรกิจที่ภูมิใจที่สุด ที่ได้ทำขึ้นตามความปรารถนาของคุณแม่ (คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช) ซึ่งมีแฟรนไชส์อยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจโรงพยาบาล ที่ได้ร่วมลงทุนกับหุ้นส่วนอีก 2 บริษัทด้วย

‘ณพ ณรงค์เดช’ ควง ‘คุณหญิงกอแก้ว’ แถลงปมหุ้นวินด์ ยืนยันความบริสุทธิ์ 

5 ศาลพิพากษาชนะรวด ยืนยันความบริสุทธิ์

คดีที่ 1 – คดีฮ่องกง HCA 1525/2018 (ศาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง)

เกษม ณรงค์เดช เป็นโจทก์ ฟ้องโกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด จำเลยที่ 1 ณพ ณรงค์เดช จำเลยที่ 2 คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา จำเลยที่ 3 เรื่องละเมิดและขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อ 2561 

  • คำพิพากษา : อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง โดยให้ชำระค่าใช้จ่ายในอัตราสูงสุด ให้แก่จำเลย   

คดีที่ 2 – คดีใช้เอกสารปลอม อ.2497/2561 (ศาลอาญา รัชดา)

เกษม ณรงค์เดช เป็นโจทก์อ้างว่าตนเองในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด ฟ้องคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา จำเลยที่ 1 ณพ ณรงค์เดช จำเลยที่ 2 และสุรัตน์ จิรจรัสพร จำเลยที่ 3 เรื่องความผิดเกี่ยวกับเอกสาร เมื่อปี 2561 

  • คำพิพากษา : ยกฟ้อง พยานผู้เชี่ยวชาญยันกันไม่อาจรับฟังเป็นยุติ ลายมื่อชื่อไม่ได้ผิดแผกแตกต่างให้เห็นชัดเจนว่าเป็นลายมือชื่อปลอม เงินช่วยเหลือจากครอบครัวก็เป็นเงินกู้ยืม ซึ่ง ณพ รับผิดชอบภาระหนี้และการบริหารจัดการคนเดียวจึงไม่ใช่การร่วมลงทุนในความหมายของกฎหมาย พยานโจทก์รับฟังไม่ได้โดยปราศจากข้อสงสัย ว่าเอกสารทั้ง 3 ฉบับเป็นเอกสารปลอม 

คดีที่ 3 – คดีเรียกทรัพย์คืน พ.1031/2562 (ศาลแพ่งกรุงเทพใต้) 

เกษม ณรงค์เดช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 14 คน และมีจำเลยร่วมอีก 31 คน เมื่อปี 2562 เรื่องให้เรียกทรัพย์คืน (หุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด) 

  • คำพิพากษา : โจทก์ขอถอนฟ้อง ไปเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเรื่องนี้ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง หลังจากที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเพิกถอนการอายัตเงินปันผลของบริษัท วินด์ฯ โดยให้เหตุผลชัดเจนว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง แม้หากฟังว่า เกษม ให้หุ้นดังกล่าวแก่ ณพ การเรียกคืนจะต้องปรากฏว่า ณพ ประพฤติเนรคุณ แต่ไม่ปรากฏเหตุว่า ประพฤติเนรคุณ

คดีที่ 4 – คดีผิดสัญญา เรียกทรัพย์คืน พ.978/2565 (ศาลแพ่งกรุงเทพใต้)

กฤษณ์ และกรณ์ ณรงค์เดช เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง ณพ ณรงค์เดช เป็นจำเลยที่ 1 บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เป็นจำเลยที่ 2 บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด เป็นจำเลยที่ 3 และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา เป็นจำเลยที่ 4 เมื่อปี 2565 เรื่องสัญญาเพิกถอนนิติกรรม เรียกทรัพย์คืน 

  • คำพิพากษา : ยกฟ้อง โจทก์ทั้งสองไม่สามารถนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่า เอกสารดังกล่าวในการโอนหุ้นไม่เป็นเอกสารที่แท้จริง หรือเป็นพยานเอกสารที่รับฟังไม่ได้เพราะเหตุใด ข้อกล่าวอ้างต่าง ๆ เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักหักล้างข้อสันนิษฐานกฎหมาย เมื่อโจทก์สืบไม่ได้จึงต้องฟังว่า การโอนหุ้นพิพาทหรือการซื้อหุ้นพิพาทมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ก็ทำถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดไม่เป็นโมฆะ เรื่องความเห็นเจ้าของหุ้นของโจทก์ทั้งสอง เมื่อได้ความว่า เงินที่ซื้อหุ้นพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ทั้งสองและไม่ปรากฏว่าเอกสารที่อ้างเป็นเอกสารปลอม การโอนหุ้นพิพาทถูกต้องตามแบบของกฎหมาย จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของหุ้นพิพาท ไม่จำต้องโอนหุ้นคืนแก่โจทก์ทั้งสอง

คดีที่ 5 – คดีปลอมลายเซ็น อ.1708/2564 (ศาลอาญากรุงเทพใต้) 

คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1) เป็นโจทก์ฟ้อง ณพ ณรงค์เดช กับพวกรวม 3 คน เมื่อปี 2564 ในฐานความผิด ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม 

  • คำพิพากษา : ยกฟ้อง ศาลใช้ดุลพินิจรับฟังว่า เอกสารทั้ง 6 ฉบับปลอม แต่ทางนำสืบและพยานหลักฐานรวมทั้งคำเบิกความของเกษมไม่มีข้อเท็จจริงใดที่ยืนยันว่า ณพ คุณหญิงฯ และสุภาพร เป็นผู้ปลอม มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงลายมือชื่อหรือนำมาใช้หรืออ้างชื่อใด ซึ่ง กฤษณ์ ก็เบิกความว่า ไม่ทราบว่าใคร เป็นผู้ลงลายมือชื่อปลอม ส่วน กรณ์ ก็เบิกความว่า ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในขณะลงลายมือชื่อ จึงไม่ทราบว่า ผู้ใดลงลายมือชื่อ จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสามไม่ได้ร่วมกันปลอมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการปลอม

‘ณพ ณรงค์เดช’ ควง ‘คุณหญิงกอแก้ว’ แถลงปมหุ้นวินด์ ยืนยันความบริสุทธิ์ 

 

ใครเป็นเจ้าของหุ้นวินด์?

ก่อนหน้านี้ ครอบครัวณรงค์เดช ประกอบด้วย นายกฤษณ์ และนายกรณ์ ณรงค์เดช ได้ออกมาแถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์เช่นกัน โดยได้นำคำพิพากษาจากศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีหมายเลขแดงที่ อ.1753/2566 โดยศาลมีคำสั่งพิพากษาว่า เอกสารจำนวน 5 ฉบับเป็นลายเซ็นปลอม กล่าวคือ

  1. สัญญาซื้อขายหุ้นวินด์ ที่นายเกษม ทำกับบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด
  2. หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ที่นายเกษม รับเป็นตัวแทนของคุณหญิงกอแก้วในการซื้อหุ้นวินด์
  3. ตราสารการโอนหุ้น ที่นายเกษม โอนหุ้นของบริษัทโกลเด้นมิวสิค ให้แก่คุณหญิงกอแก้ว
  4. ใบซื้อขายหุ้น ที่นายเกษมขายหุ้นบริษัทโกลเด้นมิวสิค ให้แก่คุณหญิงกอแก้ว
  5. คำประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นทรัสต์ ที่นายเกษมประกาศว่า หุ้นบริษัทโกลเด้นมิวสิคเป็นของคุณหญิงกอแก้ว และผลประโยชน์ใดๆ ที่เกิดขึ้นจากหุ้นต้องตกเป็นของคุณหญิงกอแก้ว รายละเอียดของคดีดังกล่าวขอให้นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความของครอบครัวณรงค์เดช ชี้แจงต่อไป

โดยนายณพ ณรงค์เดช ระบุถึงเรื่องนี้ว่า การแถลงข่าวเรื่องการปลอมเอกสาร ก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากผลของคดีอาญาที่ “ศาลยกฟ้อง” ทั้ง 2 คดี ว่า คุณหญิงกอแก้วและผม ”ไม่ได้” ปลอมเอกสาร และ ”ไม่ได้” ใช้เอกสารปลอม 

“นายกฤษณ์ นายกรณ์ ก็ไม่เคยให้ข่าวเลย ว่าศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง ว่านายกฤษณ์และนายกรณ์ไม่ได้ร่วมลงทุนจ่ายเงินซื้อหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี กับผมตามที่กล่าวอ้าง เท่ากับไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในหุ้นวินด์ฯ มีแต่ความพยายามออกสื่อแบบเท็จทั้งสิ้นว่าผมโกง”

ด้านนายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ ที่ปรึกษากฎหมาย ของนาย ณพ ณรงค์เดช ระบุว่า คำตัดสินของศาลขณะนี้ขัดแย้งกัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อจากนี้ แต่ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด ถ้าเอกสารทั้ง 5 ฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมตามพิพากษาจากศาลอาญากรุงเทพใต้แล้วล่ะก็ การดำเนินการทางธุรกิจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ต้องเป็นโมฆะทั้งหมด

“ระยะเวลาล่วงเลยไปหลายปีแล้ว เกิดการดำเนินธุรกิจ โอนหุ้น แบ่งหุ้น ไปแล้ว ส่วนทาง WEH ก็ดำเนินธุรกิจต่อมาจากสามารถจ่ายปันผลได้แล้ว แต่ขณะเดียวกันอีก 2 ศาล ก็มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้ว ทำให้ยังไม่แน่ใจว่าปัจจุบัน ใครกันแน่ที่ถือหุ้นวินด์จำนวนดังกล่าว

‘ณพ ณรงค์เดช’ ควง ‘คุณหญิงกอแก้ว’ แถลงปมหุ้นวินด์ ยืนยันความบริสุทธิ์