นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สินค้ายางพาราของไทยได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ และมาตรฐานจากทั่วโลกซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกยางแปรรูปอันดับ 1 ของโลก โดยประเทศไทยมีการส่งออกยางและ ผลิตภัณฑ์ยางเฉลี่ยปีละ 590,000 ล้านบาท ในปี 2565 ไทยส่งออกคิดเป็นมูลค่า 658,000 ล้านบาท และในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่า 200,000 ล้านบาท ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ จีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศ
โดยสร้างมูลค่าและสร้างความหลากหลาย และเพิ่มนวัตกรรมให้แก่สินค้าผลิตภัณฑ์ยางการพัฒนาและวิจัยนวัตกรรมยางมีบทบาทสำคัญ ในการขยายมูลค่าส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ยางจากประเทศไทยซึ่งสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีความแข็งแกร่งด้านการพัฒนาวิจัยยางพารา
โดยเฉพาะ จึงเป็นหน่วยงานที่จะเข้ามาเติมเต็มด้านการศึกษา วิจัย พัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพของยางพาราธรรมชาติ เพื่อนำไปต่อยอดสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราหลากหลายประเภทให้แก่ผู้ประกอบการไทย รวมถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะเข้ามามีบทบาทเป็นผู้เชื่อมโยงเครือข่ายอุตสาหกรรมยางพาราไทย โดยมีกระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนด้านการตลาดอีกด้วย
ด้านนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า หนึ่งในพันธกิจสำคัญที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมุ่งดำเนินการ คือ การพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้แก่สินค้าเกษตรของไทย ซึ่งยางพาราเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญส่งผลต่อเศรษฐกิจของไทยโดยรวม
ดังนั้นการขยายช่องทางตลาดและการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้ายางพาราของไทย รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริม ผู้ประกอบการไทยในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ โดยใช้กลยุทธ์การบูณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน พันธมิตร จะช่วยผลักดันให้เกิดการขยายช่องทางการค้าตลอดจนลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ นำไปสู่การขับเคลื่อนด้วยยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ความร่วมมือในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กำหนดจัดโครงการส่งเสริมการตลาดสินค้านวัตกรรมยางพารา โดยมีแผนดำเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2566
โดยเป้าหมายสำคัญในการดำเนินโครงการฯจะก่อให้เกิดการบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบระหว่างหน่วยงาน ภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน เพื่อให้สินค้านวัตกรรมยางพาราจากประเทศไทยเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งเกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกร ผู้ประกอบการ นักลงทุน นักวิจัย และภาครัฐ ส่งเสริม การพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัย สร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์ อีกทั้งยังส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้น
เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร รวมถึงลดภาระด้านการลงทุนและประหยัดเวลาในการวิจัยและพัฒนาสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยสามารถนำงานวิจัยยางพารามาต่อยอด สร้างความหลากหลาย และผลิตเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ