นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 10 - 11 พฤษภาคม 2566 ณ เมืองลาบวน บาโจ อินโดนีเซีย รวม 8 ฉบับ โดยให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างเอกสาร
สาระสำคัญของเอกสารความร่วมมือ
ร่างเอกสารทั้ง 8 ฉบับ เกี่ยวข้องกับ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย
โดยเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการส่งเสริมความร่วมมือ และต่อยอดการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ และเป็นสิ่งที่ไทยดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ซึ่งไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมายเพิ่มเติมต่อไทยแต่อย่างใด โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ร่างแถลงการณ์ผู้นำอาเซียนต่อวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลัง ปี ค.ศ. 2025
เป็นการแสดงการสนับสนุนการทำงานของคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี ค.ศ.2025 ในการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง ครอบคลุม รับมือต่อ ความท้าทายและแนวโน้มในปัจจุบันและอนาคต ทั้งในและนอกภูมิภาค อาเซียน ภายในกรอบระยะเวลา 20 ปี
2. ร่างแถลงการณ์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้างขีดความสามารถ และประสิทธิภาพเชิงสถาบันของอาเซียน
เป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของอาเซียนในการส่งเสริมความสามารถและประสิทธิภาพเชิงสถาบันของอาเซียน ให้เข้มแข็ง เพื่อรับมือกับความท้าทายและรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
3. ร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการค้ามนุษย์อันเกิดจากการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด
เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยี โดยผิดวัตถุประสงค์ พัฒนาระบบการป้องกันระดับชาติ โดยจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์อันเกิดจากการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด เพิ่มพูนการควบคุมข้ามชายแดน และเสริมสร้างการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
4. ร่างแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์ – เลสเต
เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณารับติมอร์ - เลสเต เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ
5. ร่างแถลงการณ์ร่วมผู้นำอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียน
เป็นการเห็นชอบที่จะจัดตั้งเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียน ให้มีเวทีสำหรับชุมชนและการมีส่วนร่วมเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน ส่งเสริมความร่วมมือและการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหมู่บ้าน
6. ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและครอบครัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการดูแลและคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและครอบครัว ที่ประสบสถานการณ์ฉุกเฉิน
7. ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการบรรจุงานและการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในภาคประมง
เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการดูแลและคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในภาคประมง
8. ร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยข้อริเริ่มสุขภาพหนึ่งเดียว
เป็นการประกาศความมุ่งมั่นในข้อริเริ่มสุขภาพหนึ่งเดียวของผู้นำอาเซียน จัดตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหนึ่งเดียวของอาเซียนหรือเครือข่ายสุขภาพหนึ่งเดียว