คลังชี้ รัฐมีช่องกู้เงิน 10% รับวิกฤตเศรษฐกิจ

15 ก.พ. 2566 | 12:14 น.

รมว.คลัง ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง “ท่องเที่ยว-การลงทุน” เครื่องยนต์สำคัญ ยันฐานะการคลังแข็งแกร่ง มีพื้นที่การคลังกู้เงินได้ 10% เพียงพอรองรับวิกฤต

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ฝ่าคลื่นเศรษฐกิจปี 2566” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า จากการขยายเพดานเงินกู้ ส่งผลให้รัฐบาลมีพื้นที่ทางการคลังและมีช่องว่างที่จะกู้เงินเพิ่มเติมได้ถึง 10%ของจีดีพี สามารถรองรับในกรณีที่เกิดวิกฤติได้ โดยไม่เสียวินัยทางการคลัง และเมื่อเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว นโยบายการคลังก็จะกลับเข้าสู่การทำงานปกติ 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

“วันนี้หนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ 60.67% ต่อจีดีพี ซึ่งส่วนใหญ่ 80%เป็นหนี้ของการลงทุน มีผลต่อการเติบโตในระยะยาว และปัจจุบันหนี้ต่างประเทศของไทยมีสัดส่วนน้อยกว่าเงินกู้ในประเทศ ส่งผลให้ฐานะการเงินการคลังของไทยยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และนโยบายการเงินการคลังในปัจจุบัน ยังสอดประสานงานกันระหว่างกระทรวงการคลังและธปท.ด้วย”นายอาคมกล่าว

ทั้งนี้ยืนยันว่าในปี 2566 การใช้จ่ายของภาครัฐบาลยังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านของการลงทุน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตในอนาคต ส่วนในเรื่องงบประมาณ

คลังชี้ รัฐมีช่องกู้เงิน 10% รับวิกฤตเศรษฐกิจ

  • ปี 2566 รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณขาดดุล 695,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ประมาณ 700,000 ล้านบาท
  • ปี 2567 ตั้งงบประมาณขาดดุล 593,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2566 ที่ 102,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก

“การตั้งงบประมาณต้องวางแผนให้มีเหตุมีผล เมื่อไหลที่ขาดดุลนานจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่กระทรวงการคลังยืนยันตลอด คือ นโยบายการคลังที่ยั่งยืน ไม่เฉพาะไทยเท่านั้นแต่ประเทศอื่นก็ทำลักษณะเดียวกัน เมื่อโควิดหมด ต้องทำนโยบายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ”นายอาคมกล่าว

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2566 นี้ จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนเป็นสำคัญ 

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม คือ ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัว ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกของไทย อย่างไรก็ตาม ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีความไม่แน่นอน แต่ด้านฐานะทางการคลังยังแข็งแกร่ง 

คลังชี้ รัฐมีช่องกู้เงิน 10% รับวิกฤตเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ยอมรับว่า ไทยได้รับผลกระทบอยู่บ้าง สะท้อนจากภาคการส่งออกที่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวลง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ การค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน การค้าชายแดน รวมถึงการหาตลาดใหม่ๆ มาชดเชยการส่งออกในบางส่วนที่หายไป

ทั้งนี้ สิ่งที่คาดว่า มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของไทยในอนาคต มี 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่อง Digital และ Green โดยการที่จะให้ประเทศก้าวไปสู่ความทันสมัย การใช้เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต แอปพลิเคชั่น แพลตฟอร์ม 5G ต่างๆ ล้วนเป็นโครงสร้างพื้นฐานของดิจิทัลที่ทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้

"การเติบโตของเทคโนโลยีต้องไม่ลืมผลลบ เมื่อเปิดมากก็เปิดช่องให้มิจฉาชีพ เช่นที่เผชิญทุกวันนี้ ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญในระบบรักษาความปลอดภัยด้วย"นายอาคมกล่าว